Scania AB 1970

Scania AB 1970 จากในตอนที่แล้วแบรนด์ยนต์สแกนเนียได้มีการปรับเปลี่ยนมากมายในเรื่องของที่ผลิต ต้องเข้าใจก่อนว่าแต่ก่อนนั้นแบรนด์สแกนเนียไม่ได้มีฐานผลิตอยู่ที่ประเทศสวีเดนตั้งแต่แรกในครับ

จะเห็นว่าแบรนด์สแกนเนียนั้นมีที่ผลิตทั้งที่ในประเทศบราซิล และประเทศสวีเดนอย่างที่บอกในตอนที่แล้วจะเห็นว่าในประเทศเหล่านี้ จะมีความต้องการของตลาดรถบรรทุกสูงมาก

ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่าน สามารถกลับไปอ่านได้ที่ คลิก แบรนด์สแกนเนีย1960 ในวันนี้เราจะพาไปชมกันว่าในตอนนี้แบรนด์สแกนเนียนั้นจะเป็นยังไง เอาหละถ้าพร้อมกันแล้วไปชมกันเลย

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Scania AB 1970

Scania AB 1970 เรื่องราวของแบรนด์สแกนเนียในช่วงปีค.ศ.1970

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ประวัติแบรนด์รถยนต์สแกนเนีย ค.ศ.1970

แบรนด์สแกนเนียในช่วงปีพ.ศ. 2519 ทางแบรนด์ได้มีการสร้างและเปิดที่ผลิตของแบรนด์ที่อาร์เจนติน่า ช่วงวันที่ 10 กันยายน ทางแบรนด์สแกนเนียได้มีการผลิตกระปุกเกียร์ที่เป็นการผลิตนอกประเทศสวีเดน

ที่เป็นการผลิตนอกการผลิตหลักนอกสวีเดน และมาถึงช่วงเดือนธันวาคม รถบรรทุกรุ่นแอล111 รุ่นนี้กลายเป็นรุ่นที่เป็นรุ่นที่มีการผลิตรถบรรทุกของแบรนด์ครั้งแรกที่อาร์เจนตินา

และต่อมาดูเหมือนว่าทางแบรนด์สแกนเนียจะมีความสามารถในด้านการผลิตกระปุกเกียร์มาก ในชิ้นส่วนที่มีความสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็จะเป็นพวกเพลาและเฟืองท้าย ซึ่งชิ้นส่วนพวกนี้จะมีการผลิตคนละที่กับกระปุกเกียร์จะผลิตที่ทูคูมานและที่บราซิล

ยังมีอีกเรื่องหนึ่งของแบรนด์สแกนเนียที่อาร์เจนตินา ในช่วงปี ค.ศ.1982 ทางด้านแบรนด์สแกนเนียได้มีการนำเอาซีรี่ย์2 ไปทำการเปิดตัวเพื่อที่จะนำเอามาเป็นส่วนหนึ่งของแผนสแกนเนีย

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Scania AB 1970

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ในรุ่นของซีรี่ย์2จะมีการนำเอารถบรรทุกในแต่ละรุ่นมารวมกัน จะมีรถบรรทุกรุ่น ที112 และ อาร์112 จะมีห้องโดยสารที่มีการนำดีไซต์แต่ละรุ่นมารวม

แต่ในเรื่องของสมรรถนะของรถและความสามารถเครื่องยนต์จะมีความแตกต่างกัน ในช่วงปี ค.ศ.1983 ทางแบรนด์ไดมีการเปิดตัว เค112 รุ่นนี้จะผลิตที่ ทูคูแมน และยังมีรุ่นอื่นๆอีกมากที่ผลิตที่นี้ด้วย เหมือนว่าทางแบรนด์จะนำเอามาแทนที่ของรุ่น บีอาร์116

ต่อมาในปี ​​พ.ศ.2528 ช่วงปีนี่ทางแบรนด์รถยนต์สแกนเนียได้มีโอกาศที่จะไปขายในตลาดของอเมริกา ซึ่งเป็นครั้งแรกของแบรนด์ที่ได้ไปตีตลาดที่นี้

แต่ในช่วงแรกๆที่สแกนเนียได้เข้าไปสู่ตลาดอเมริกาก็ได้มีการวางแผนเล็กๆที่ตั้งไว้ว่าจะขายรถบรรทุกเพียง 200 คัน ให้ได้ก่อนปีพ.ศ.2530

บทความโดย ufabet777

Scania AB 1960

Scania AB 1960 จากในตอนที่แล้วทางด้านแบรนด์สแกนเนียได้รับผลกระทบมากมายหลายเรื่อง แต่ก็ยังมีเรื่องดีๆเข้ามาอยู่ในตอที่แล้วทางแบรนด์สแกนเนียได้รับผลดระทบจากการขายในตลาดรถยนต์

และยังมีเรื่องของการส่งออกที่มีเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำมาก แต่ก็ยังได้แบรนด์เบียร์ยักษ์ใหญ่มาร่วมเป็นหุ้นส่วน ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่าน แนะนำให้กลับไปอ่านกันได้ที่ คลิก แบรนด์สแกนเนีย1950

ในวันนี้เราจะพาไปชมกันว่าในปีนี้บรนด์สแกนเนียมีอะไรใหม่ๆบ้าง หรือมีผลกระทบอะไรอีกมั้ย ถ้าหากผิดพลาดตรงไหนก็ต้องขออภัยไว้ด้วยนะครับ เอาหละไปชมกันเลย

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Scania AB 1960

Scania AB 1960 ความเป็นมาของแบรนด์รถยนต์จากสวีเดน

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ประวัติแบรนด์รถยนต์สแกนเนีย ค.ศ.1960

ในช่วง้วลาปี ค.ศ.1960 ทางบริษัท สแกนเนีย ได้มีแผนงานที่ปรับเปลี่ยนใหม่ก็คือการที่ทางแบรนด์จะย้ายฐานการผลิตส่วนมากไปที่ต่างประเทศ รวมถึงในปัจจุบันด้วยทางแบรนด์สแกนเนียก็ยังคงมีฐานผลิตส่วนใหญ่อยู่ที่ เซอเดอร์เตลเย ประเทศสวีเดน

ในช่วงปลายๆปีค.ศ. 1960 ทางแบรนด์สแกนเนียได้มีความคิดว่าการที่จะขยายการผลิตไปที่ต่างประเทศสำคัญมาก และในช่วงนั้นประเทศบราซิลเป็นประเทศที่มีตลาดของรถบรรทุกที่มีความต้องการสูง

ตรงตามกับแผนที่สแกนเนียเคยวางเอาไว้ และอีกอย่างประเทศบราซิลยังมีการใช้รถโดยสารประจำทางในการข้ามเมืองสูงอีกด้วย อีกทั้งในประเทศบราซิลยังมีเขาเยอะและถนนที่ไม่ค่อยกว้างสักเท่าไหร่

ในวันที่ 2 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2500 ทางด้านบริษัทย่อย สแกนเนีย ดรู บราซิล เอสเอร์ ในบราซิล บริษัทย่อยนี้ได้มีการประกอบและทำรถต่างๆได้ด้วยตัวเองแล้ว ในช่วงปีพ.ศ.2501

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Scania AB 1960

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ในวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2502 ทางแบรนด์สแกนเนียได้ทำการทำโรงงานแห่งใหม่อยู่ที่ในเขตอิปิรังกาของ ที่เซาเปาโล และในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2503 สแกนเนีย ดรู บราซิล เอสเอร์ ทางบริษัทย่อยตอนนี้ได้มีการผลิต

และประกอบด้วยตัวเองถึงร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว รถยนต์ สแกนเนีย ได้มีการช่วยรายได้ในทางถื่นบราซิลด้วยการจ้างบริษัทในท้องถิ่นเป็นผู้ประกอบนั้นก็คือบริษัท เวแมก เป็นเวลาหลายปีที่บราซิล

สแกนเนีย ในตอนนี้บริษัทได้ทำการสร้างโรงงานแห่งแรกที่สามารถที่จะผลิตและทำด้วยตัวเองได้ทั้งหมดในที่เดียว โรงงานจะอยู่แถวนอกเมือง เซอเดอร์เตลเย

และก็ยังมีการสร้างโรงงานเพิ่มที่ เซาเบร์นาโดดูกัมโป ใกล้เซาเปาโล อีกที่ เพื่อที่ทางแบรนด์จะสามารถที่จะทำการค้าขายระหว่างประเทศได้ดียิ่งขึ้น ในช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่แบรนด์สแกนเนียมีกำไรดีมากในตลาด

บทความโดย แทงบอล

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Scania AB 1950

Scania AB 1950 หลังจากที่ในตอนที่แล้วเราได้พาทุกท่านไปชมกันกับเรื่องราวของแบรนด์รถยนต์จากประเทศสวีเดน ที่เป็นช่วงเวลาที่มีการปรับเปลี่ยนมากมายและการที่ต้องเจอกับปัญหาเรื่องของตลาดรถ

ทางแบรนด์จึงมีการทำรถหรูและรถอื่นๆมากมาย ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่าน สามารถกลับไปอ่านได้ที่ คลิก ประวัติสแกนเนีย1920 ในตอนนี้เราจะพาทุกท่านไปดูกันว่าในช่วงปีค.ศ.1950

แบรนด์สแกนเนีนยได้เจอกับอะไรและได้ทำการปรับเปลี่ยนอะไรอีกมั้ย เราเตรียมเนื้อหาของสแกนเนียเอาไว้ให้ทุกท่านแล้ว ถ้าพร้อมกันแล้วหละก็ไปชมกันเลย

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Scania AB 1950

Scania AB 1950 ความเป็นมาของแบรนด์รถยนต์ที่น่าสนใจ

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ประวัติแบรนด์สแกนเนีย ค.ศ.1950

แบรนด์สแกนเนียในช่วงปีค.ศ.1950 ทางแบรนด์รถยนต์สแกนเนียได้ทำการขยับขยายไปที่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และทางแบรนด์ยังได้มีการนำเข้ารถยนต์ของแบรนด์ต่างๆมาขายด้วยนั้นก็คือ วิลลี่ จี๊ป และ ฟ็อลคส์วาเกิน บีเทิล

และในการตัดสินที่นำเอารถยนต์จากแบรนด์อื่นๆมาขายหรือง่ายๆคือทางแบรนด์สแกนเนียเป็นตัวแทนเอามาขายนั้นแหละ แต่มันทำให้สแกนเนียได้กำไรเป็นอย่างมาในการเป็นตัวแทนขายของแบรนด์ต่างๆ

และอีกอย่างคือทางแบรนด์สแกนเนียได้ทำการผลิตรถใหม่อย่าง แอล71 รีเจ้นท์ ออกมาตีตลาดในช่วงเวลาปี ค.ศ1954 ทำให้ทางแบรนด์วอลโว่มองว่าแบรนด์สแกนเนียนั้นเป็นแบรนด์คู่แข่งที่มาแรง

ในช่วงเวลาต่อมาทางสแกนเนียวาบิสได้มีการวางแผนที่จะทำการขยายตัวแทนและศูนย์บริการสแกนเนียให้มีอยู่ทั่วประเทศ ในช่วงปลายๆปีค.ศ. 1950 ทางแบรนด์สแกนเนียได้เจอปัญหาบางอย่างก็คือการตลาด

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Scania AB 1950

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ที่มีเหล่าหุ้นส่วนของทางแบรนด์ในประเทศสวีเดนมากถึง 40เปอร์เซ็นต์ ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และมันยังไม่หยุดแค่นั้นนะครับยังพุ่งไปสูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว และมันทำให้ตลาดรถบรรทุกของสแกนเนียเจอปัญหาหนักมาก

แต่ก็ยังได้รับแบ่งเบาลงได้หน่อยเพราะว่าช่วงเวลาได้ทำการขยายศูนย์บริการและตัวแทนต่างๆ ทำให้ตลาดรถบรรทุกของสแกนเนียยังพอไปได้อยู่

และแล้วเรื่องใหญ่ก็หาถึงทางแบรนด์สแกนเนียได้เจอกับปัญหาการส่งออกของแบรนด์ในช่วงปีค.ศ.1950 ทางแบรนด์สแกนเนียมีการส่งออกรถต่างๆเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

จากที่สแกนเนียได้ผลิตทั้งหมด ในช่วงหลายปีต่อมาเรื่องการส่งออกของแบรนด์สแกนเนียก็กลับมาดีขึ้นเพิ่มาอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ ได้มีบริษัทเบียร์ที่เนเธอร์แลนด์

ได้มาเป็นหุ้นส่วนที่มีความสำคัญกับแบรนด์สแกนเนียมาก และบริษัทเบียร์แห่งนี้ก็ได้กลายมาเป็นหุ้นส่วนอย่างเป็นทางการของ สแกนเนียวาบิส

บทความโดย ufabet888

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Scania AB 2

Scania AB 2 หลังจากที่ในตอนที่แล้วท่านใดที่ได้อ่านนั้นจะรู้จักกันดีกับแบรนด์รถยนต์นี้ แบรนด์รถยนต์สแกนเนียเป็นแบรนด์ที่ส่วนมาจะเป็นแบรนด์รถบรรทุก รถขนาดใหญ่ๆ หรืออาจจะเป็นพวกรถโดยสาร

เป็นแบรนด์ที่ทำรถออกมาได้สวยและน่าสนใจมาก ในตอนที่แล้วท่านใดที่ยังไม่ได้อ่าน แนะนำให้กลับไปอ่านกันก่อนได้ที่ คลิก ประวัติสแกนเนีย ในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมกับประวัติของแบรนด์รถยนต์สแกนเนียกันต่อ

แบรนด์นี้มีประวัติที่ยาวนานและน่าสนใจมาก จะได้รู้จักกับแบรนด์สแกนเนียแบรนด์รถยนต์เก่าแก่ พร้อมกันแล้วหละก็ไปชมกันเลย

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Scania AB 2

Scania AB 2 ประวัติความเป็นมาของแบรนด์รถยนต์

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ประวัติแบรนด์รถยนต์สแกนเนีย ค.ศ.1920

จะมาต่อกันที่แบรนด์รถยนต์สแกนเนียในช่วงนี้จะเป็นช่วงของการที่มีรถยนต์นำเข้ามากมายจากในแต่ละแบรนด์ที่ประเทศสวีเดน และทางด้านของแบรนด์ สแกนเนีย วาบิส

พวกเขาได้ทำการวางแผนที่จะผลิตรถยนต์ที่มีความหรูหราออกมาตีตลาด อย่างเช่น ลีมูซีนประเภท 3 จากในปี ค.ศ.1920 และรุ่นนี้จะมีที่เก็บสัมภาระบนหลังคาให้ด้วย

เจ้าชายคาร์ลแห่งสวีเดนที่ในตอนนี้เป็นเจ้าของ สแกนเนีย วาบิส 3 เอส รุ่นปี 1913 ในรถยนต์รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกๆที่มีปุ่มตรงผู้โดยสาร เอาไว้กดและสามารถที่จะพูดคุยกับคนขับรถได้ สแกนเนีย วาบิส ยังมีการทำประเภทของรถสปอร์ตที่เอาไว้ใช้ในการแข่งขันรถได้ในระดับอาชีพ

ในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมาอยู่ดีๆการขายของแบรนด์สแกนเนียก็ได้หยุดนิ่ง  ส่วนมากในด้านของการส่งออกต่างประเทศไม่มีการสั่งซื้อเลย ไม่ว่ายังไงก็ตามอาจจะเป็นเพราะว่าในช่วงหนึ่งจะอยู่ในช่วงเวลาของสงครามโลกครั้งที่ 1

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Scania AB 2

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทางด้านแบรนด์สแกนเนียต้องทำการเกือบทั้งหมดให้กับกองทัพประเทศสวีเดน ในช่วงปี ค.ศ.1916 แบรนด์ สแกนเนีย วาบิส ได้มีการขายและส่งออกต่างๆทำให้สแกนเนียสามารถที่จะนำเงินไปทำการพัฒนาโรงงานการผลิตของแบรนด์ทั้งสองที่

ในช่วงปี พ.ศ. 2462 หลังจากที่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งได้จบลง แบรนด์สแกนเนียได้ปรับเปลี่ยนแผนและได้ไปลงมือการผลิตรถประเภทรถบรรทุกและรถขนาดใหญ่

ทำให้การผลิตรถยนต์ประเภทอื่นๆต้องหยุดไป แถมทางสแกนเนียยังได้ทำรถประเภทรถโดยสารต่างด้วย แต่ก็ยังมีเรื่องของรถยนต์จากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งที่ได้นำเข้ามาขายในตลาด

ทำให้ในตลาดนั้นมีรถยนต์มากทำให้แบรนด์สแกนเนียต้องรำบาก และแล้วก็มาถึงในปี ค.ศ.1921 แบรนด์รถยนต์สแกนเนียก็ต้องปิดตัวลงจากการล้มละลาย

บทความโดย ufa168

Scania AB

Scania AB ผมเชื่อว่าหลายๆท่านคงที่จะไม่รู้จักกันกับ แบรนด์รถยนต์ นี้อย่างแน่นอน เพราะว่าแบรนด์รถยนต์นี้นั้นไม่มีอยู่ในประเทศไทยก็ว่าได้ หรืออาจจะมีแต่น่าจะน้อยมาก

ส่วนมากแล้วจะเห็นแบรนด์รถยนต์นี้ได้จะเป็นแถวฝั่งยุโรป แบรนด์รถยนต์นี้ไม่ได้เป็นแบรนด์รถยนต์เล็กๆนะครับ ถือได้ว่าเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศสวีเดนเลย

ทำไมรถยนต์นี้ถึงได้ครองใจคนสวีเดน แบรนด์รถยนต์นี้มีอะไรดีกว่าเบรนด์อื่นๆ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับแบรนด์นี้กัน เอาหละถ้าพร้อมกันแล้วไปชมกัน

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Scania AB

Scania AB แบรนด์รถยนต์ที่มีชื่อเสียงจากทางประเทศสวีเดน

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ประวัติของแบรนด์รถยนต์ สแกนเนีย เอบี

เอบี สแกนเนีย เวียบิส ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2454 อันเป็นผลมาจากการควบรวมกิจการระหว่าง เวียบิส ซึ่งตั้งอยู่ในโซเดอร์ทาลเยและ มัสเกสต์แฟรดิกก์ แอคไทบอร์ลริเจิล เวียบิส

ซึ่งแบรนด์นี้จะอยู่ที่เมืองมัลโม เวียบิส ได้ถูกสร้างขึ้นในฐานะผู้ผลิตรถรางในปี ค.ศ.1891 ในขณะที่ มัสเกสต์แฟรดิกก์ แอคไทบอร์ลริเจิล เวียบิส ก่อตั้งขึ้นในฐานะผู้ผลิตจักรยาน

ในปี ค.ศ.1900 ทั้งสองบริษัทต่างพยายามสร้างรถยนต์ รถบรรทุก และเครื่องยนต์ แต่ประสบความสำเร็จต่างกันไป ในปี ค.ศ.1910 มัสเกสต์แฟรดิกก์ แอคไทบอร์ลริเจิล เวียบิส ประสบความสำเร็จในการสร้างยานพาหนะที่เชื่อถือได้

ในขณะที่ เวียบิส ใกล้จะปิดตัวลง ข้อเสนอจาก เพอร์ อัลเฟรด นอร์เดมันกรรมการผู้จัดการของ มัสเกสต์แฟรดิกก์ แอคไทบอร์ลริเจิล เวียบิส ให้กับผู้ผลิตเหล็ก สุรหัมมาศ บรูก เจ้าของ เวียบิส นำไปสู่ข้อตกลงในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2453 และในปี พ.ศ. 2454 การควบรวมกิจการก็เป็นความจริง

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Scania AB

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

การทำและผลิตของต่างๆหรือจะเป็นพวกเครื่องยนต์ยังรวมไปถึงพวกรถยนต์เล็กจะถูกสร้างขึ้นที่ เซอเดอร์เทลเย ในขณะที่รถบรรทุกผลิตในเมือง มัลเมอ

โลโก้ของบริษัทได้รับการออกแบบใหม่จากโลโก้ดั้งเดิมของ มัสเกสต์แฟรดิกก์ แอคไทบอร์ลริเจิล เวียบิส ที่มีส่วนหัวเป็นกริฟฟิน ซึ่งเป็นตราประจำภูมิภาคของ เวียบิส ของสวีเดน

โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ชุดโซ่จักรยานสามก้าน ในขั้นต้นสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองมัลเมอ แต่ในปี พ.ศ. 2455 พวกเขาก็ถูกย้ายไปที่เซอเดอร์เตลเย

อันนี้เป็นเพียงแค่เรื่องราวความเป็นมาและการสร้างของแบรนด์รถยนต์สแกนเนีย เอบี ถือได้ว่าเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีการทำขึ้นมาได้ดีมาก และถือได้ว่าเป็นแบรนด์รถยนต์ที่แปลกมากสำหรับคนไทย ในตอนหน้าเรายังมีเรื่องราวของแบรนด์สแกนเนีย เอบีอีกนะครับ ติดตามได้ในตอนหน้า

บทความโดย ufabet1688

Production models Mini

Production models Mini หลายๆตอนที่ผ่านมาเราได้นำข้อมูลที่ไปหามาของแบรนด์รถยนต์มินิได้บอกเล่าให้ทุกท่านฟังกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวการเริ่มต้นของแบรนด์รถยนต์มินิ

เรื่องราวของแบรนด์ในปัจจุบัน ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่าน สามารถกลับไปอ่านกันได้ที่ คลิก ประวัติแบรนด์รถยนต์มินิ ในวันนี้หลายๆท่านคงจะเคยเห็นรถยนต์มินิกันมาแล้ว

จะรู้ดีว่าแบรนด์มินินั้นมีหลายรุ่น หลายการดีไซน์ต่างๆ ที่มีความแตกต่างกันออกไป มาดูกันว่าในตอนนี้จะเป็นมินิรุ่นอะไรจะเก่าหรือใหม่ เอาหละถ้าหากพร้อมกันแล้วไปชมกันเลย

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Production models Mini

Production models Mini รถยนต์มินิแต่ละรุ่น

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ประวัติการออกแบดีไซน์มินิมาร์ก 3-7

มินิมาร์ก3 เปิดตัวในปี ค.ศ.1969 ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงของ มาร์ก 2 พร้อมตัวถังดัดแปลง การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือประตูบานใหญ่ที่มีบานพับปกปิด

ฝากระโปรงหลังสูญเสียแผ่นป้ายทะเบียนแบบบานพับดั้งเดิมและรูปทรงแบบเว้า ส่วนไฟท้ายขนาดใหญ่ที่มีรหัสสีติดตั้งเข้าที่ พร้อมด้วยกระจกมองข้างด้านหลังที่ใหญ่ขึ้น

หน้าต่างบานเลื่อนถูกแทนที่ด้วยหน้าต่างที่คดเคี้ยว แม้ว่า มาร์ก 1 มินิ ที่ผลิตในออสเตรเลียบางรุ่นได้นำคุณลักษณะนี้มาใช้ในปี ค.ศ.1965 ระบบกันสะเทือนเปลี่ยน

จาก ไฮโดรลาสติก เป็นกรวยยาง เป็นมาตรการประหยัดต้นทุน การผลิตที่โรงงานคาวลีย์สิ้นสุดลง และชื่อง่ายๆ มินิ เข้ามาแทนที่แบรนด์ออสตินและมอร์ริสที่แยกจากกันโดยสิ้นเชิง

มาร์ก 4 ซึ่งเปิดตัวในปี ค.ศ.1976 ได้เปิดตัวซับเฟรมยางด้านหน้าที่มีโบลต์ทาวเวอร์เดี่ยวและบุชขนาดใหญ่ที่เฟรมด้านหลัง นอกจากนี้ ตัวบ่งชี้ก้านคู่ถูกนำมาใช้กับแป้นเหยียบขนาดใหญ่ และตั้งแต่ปีพ.ศ. 2520 เป็นต้นมา ไฟเลี้ยวด้านหลังมีไฟถอยหลังรวมอยู่ด้วย

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Production models Mini

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ในมินิมาร์ก 5 ได้ถูกนำออกมาเปิดตัวในปี ค.ศ.1984 รุ่นนี้จะมีดิสก์เบรกขนาด 210 มม. และได้ทำซุ้มล้อออกมาในรูปแบบของพลาสติก (ซุ้มโค้งพิเศษขนาดเล็ก) แต่ยังคงรูปทรงเปลือกตัวถัง มาร์ก  4 ไว้เหมือนเดิม

สำหรับ มาร์ก 6 ซึ่งเปิดตัวในปี ค.ศ.1990 รุ่นที่6ของมินินี้นั้นได้มีการวางแผนที่จะทำเครื่องยนต์เพื่อที่จะให้มีกำลังเครื่องถึง 1,275 ซีซี และรวมถึงรุ่นคาร์บูเรเตอร์ เอชไอเอฟ บวกกับรถยนต์หัวฉีดเชื้อเพลิงจุดเดียวซึ่งออกมาในปี 1991

หน่วยกำลัง 998 ซีซีถูกยกเลิก การเปิดฝากระโปรงหน้าภายในได้รับการติดตั้งตั้งแต่ปี ค.ศ.1992
มาที่มินิมาร์ก 7 จะถูกนำออกมาเปิดตัวในปี ค.ศ.1996 เป็นมินิรุ่นล่าสุดในการทำออกมาของมินิ สองประตูดั้งเดิม รุ่นนี้มินิได้มีการเพิ่มระบบหัวฉีดแบบทวินพอยต์พร้อมหม้อน้ำด้านหน้า พร้อมด้วยแผงหน้าปัดแบบเต็มความกว้างและถุงลมนิรภัยด้านคนขับ

บทความโดย ufabet1688

Mini 2000 to present

Mini 2000 to present หลังจากในตอนที่แล้วทำให้เรารู้กันว่าแบรนด์รถยนต์มินินั้นอยู่ในความดูแลของบริษัทอะไรกันอยู่ ในตอนที่แล้วจะเป็นช่วงเวลาในปีค.ศ.1999 ถึง ปีค.ศ.2000 มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี

ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่าน แนะนำให้กลับไปอ่านกันก่อนนะครับ มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นเยอะ สามารถอ่านได้ที่ คลิก แบรนด์รถยนต์มินิ

ในวันนี้เราจะพาไปชมกับเรื่องราวของแบรนด์รถยนต์ขนาดเล็กอย่าง มินิ ว่าตั้งแต่ปีค.ศ.2000ถึงปัจจุบันนั้นมีความเป็นมายังไงและมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เอาหละพร้อมแล้วไปชมกันเลย

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Mini 2000 to present

Mini 2000 to present เรื่องราวของแบรนด์รถยนต์มินิ

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

เรื่องราวของแบรนด์รถยนต์มินิ ค.ศ.2000ถึงปัจจุบัน

มาร์ก 7 มินิ เป็นรถยนต์รุ่นสุดท้าย และยังมี 5,387,862 และทางแบรนด์รถยนต์มินิรุ่นที่ทำการผลิตเป็นรุ่นสุดท้ายก็คือ คูเปอร์สปอร์ต สีแดง ถูกสร้างขึ้นที่โรงงาน ลองบริดจ์

ในเดือนตุลาคม ค.ศ.2000 รถคันนี้ถูกขับออกจากสายการผลิตโดยนักร้องเพลงป็อป ลูลู่ และต่อมาได้นำไปติดตั้งที่ เฮอริเทจ มอเตอร์ เซ็นเตอร์ ใน เกย์ดอน ข้างๆ

กับ มินิมาร์ก เครื่องแรกที่ฉันเคยสร้าง มินิแฮทช์/ฮาร์ดท็อป พวกเขาได้ทำรุ่นใหม่ออกมาวางจำหน่ายในช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2544 สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือมันขายดีมากๆ

ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 บีเอ็มดับเบิลยูได้ประกาศการลงทุน 100 ล้านปอนด์ในโรงงานขนาดเล็กในเมืองอ็อกซ์ฟอร์ด สหราชอาณาจักร สร้างงานใหม่ 200 ตำแหน่ง และทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Mini 2000 to present

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ที่งาน งานแสดงรถยนต์นานาชาติที่อเมริกาเหนือ ในเดือนมกราคม ค.ศ.2011 ทางด้านแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูได้ออกมาบอกว่าจะทำการเพิ่มขนาดของตัวรถมินิ

โดยการที่พวกเขาจะเปิดตัวรถสปอร์ตครอสโอเวอร์สองประตูใหม่สองรุ่นซึ่งใช้แนวคิดรถแนวคิด มินิ เพซแมน โดยมีรุ่นคูเป้วางแผนที่จะเข้าสู่การผลิต ค.ศ.2011

และรถเปิดประทุนที่จะตามมาในปี ค.ศ.2012 ในช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2554 ทางด้านแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูได้มีการออกมาพูดว่าจะทำการลงทุนมูลค่า 500 ล้านปอนด์ในสหราชอาณาจักรในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยเป็นส่วนหนึ่งของการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์มินิเป็นเจ็ดรุ่น

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.2017 บีเอ็มดับเบิลยูได้ประกาศว่ารถมินิไฟฟ้าจะถูกสร้างขึ้นที่โรงงานคาวลีย์ ในเมืองอ็อกซ์ฟอร์ด ซึ่งจะเริ่มการผลิตในปี ค.ศ.2019 มันจะผลิตในประเทศจีนด้วย

บทความโดย ฝากขั้นต่ำ100

Mini 1990 to 2000

Mini 1990 to 2000 จากในตอนที่แล้วเราได้พาทุกท่านไปรู้จักกันกับแบรนด์รถยนต์มินิมาแล้ว ในประเทศไทยเรานั้นถือได้ว่ามินิใช้งานกันมากมาย และเป็นรถยนตร์ที่สามารถใช้งานได้ง่าย

แถมผู้หญิงยังใช้งานกันมากเพราะว่าเป็นรถยนต์เล็กขับง่าย แถมยังดูหรูหราอีกด้วย ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านในตอนที่แล้ว สามารถกลับไปอ่านกันได้ที่ คลิก ประวัติแบรนด์รถยนต์มินิ

ในวันนี้เราจะพาไปชมกับเรื่องราวของแบรนด์รถยนต์มินิที่อยู่ในช่วงเวลาของปีค.ศ.1999ถึงค.ศ.2000 บอกได้เลยว่าน่าสนใจมาก ท่านใดที่ใช้งานมินิอยู่นั้นจะได้รู้ว่ารถยนต์เป็นมายังไง

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Mini 1990 to 2000

Mini 1990 to 2000 เรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์รถยนต์มินิ

ประวัติแบรนด์รถยนต์มิน 1999 ถึง ค.ศ.2000

ในช่วงปี ค.ศ.1990 ทางด้านแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูพวกเขาอยากที่จะขยายบริษัทด้านผลิตภัณฑ์ต่างๆของแบรนด์ด้วยการเพิ่มรถยนต์คอมแพคและเอสยูวี

พวกเขามีความคิดที่อยากจะทำรถยนต์ที่มีขนาดเล็กสามารถใช้งานได้ง่ายมีอยู่หลายรุ่นจากบริษัท ในช่วงต้นปีค.ศ.1990 อย่างแรกคือ อี1 และ ซี13 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู ขนาด 1100 ซีซีที่ติดตั้งด้านหลัง ตามลำดับ

ในช่วงต้นปี ค.ศ.1994 บีเอ็มดับเบิลยู ได้ซื้อกิจการ โรเวอร์กรุ๊ป จาก บริติช แอโรสเพส ซึ่งเป็นเจ้าของ มินิ รวมถึงแบรนด์อื่นๆ บีเอ็มดับเบิลยูยืนยันว่าแม้แต่รุ่นกะทัดรัดก็ต้องมีคุณสมบัติตามแบบฉบับของบีเอ็มดับเบิลยู (อย่างระบบขับเคลื่อนล้อหลัง)

พวกเขาพยายามที่จะรักษามาตราฐานของทางบริษัทเอาไว้ ไม่ว่ายังไง แบรนด์ มินิ ไม่ได้แบ่งปันมาตรฐานเหล่านี้ และ บีเอ็มดับเบิลยู เห็นว่านี่เป็นโอกาสในการสร้างรถยนต์ขนาดกะทัดรัดที่มีราคาที่แข่งขันได้

แต่ระดับพรีเมียม สิ่งนี้ทำให้เกิดแผนของ บีเอ็มดับเบิลยู ที่จะเปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู 1 ซีรี่ย์ ระดับพรีเมียมและ มินิ ระดับกลาง

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Mini 1990 to 2000

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ในตอนที่ โรเวอร์ กำลังทำการศึกษาเพื่อที่จะได้รับช่วงต่อจาก มินิ รุ่นดั้งเดิม แนวคิดแรกคือ เอซีวี 30 ซึ่งเปิดตัวที่ มอนติคาร์โลแรลลี่ 1997 ชื่อนี้เป็นเพียงบางส่วนของตัวย่อของ แอนนิเวอร์ซารี คอนเซพท์ วีฮิเคิล

ในขณะที่ 30 หมายถึง 30 ปีที่ผ่านไปตั้งแต่ มินิชนะการแข่งขัน มอนติคาร์โลแรลลี่ เป็นครั้งแรก ตัวรถเป็นคูเป้สองประตูที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ เอ็มจี เอฟ ที่ติดตั้งด้านหลัง

ไม่กี่เดือนต่อมา โรเวอร์ ได้ออกแนวคิดใหม่ คราวนี้ รถยนต์คู่หนึ่งชื่อ สพีริชวล และ สพีริชวล ทู ยานพาหนะเหล่านี้เป็นความพยายามที่สมจริงมากขึ้นในการสร้าง มินิ ที่ทันสมัย

และใกล้เคียงกับการสร้างโครงการ มินิ อย่างเป็นทางการของ บีเอ็มดับเบิลยู แม้ว่าคู่สองประตูและสี่ประตูจะสวมป้ายมินิ แต่ยานพาหนะทั้งสองคันยังคงเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น

บทความโดย ufabet1688

Mini

Mini หลายๆท่านคงที่จะไม่รู้กันว่าแบรนด์รถยนต์เล็กๆอย่างแบรนด์ มินิ นั้นมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานแล้ว หลังจากที่ในตอนที่แล้วเราได้พาไปรู้จักกันกับแบรนด์รถยนต์ไครสเลอร์กันไป

ถ้าหากท่านใดที่ยังไม่ได้อ่าน สามารถกลับไปอ่านกันได้ที่ คลิก ประวัติแบรนด์ไครสเลอร์ ในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกันกับแบรนด์รถยนต์มินิกัน อาจจะเป็นแบรนด์ของใครหลายๆคน

เราจะเห็นได้ว่าในประเทศไทยนั้นมีรถยนต์มินิมากมาย ถือได้ว่าในประเทศไทยนั้นนิยมกันมาก เอาหละถ้าหากพร้อมกันแล้ว ไปชมกันเลย

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Mini

Mini แบรนด์รถยนต์ที่มีขนาดเล็กน่ารักที่น่าใช้งานมาก

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ประวัติแบรนด์รถยนต์มินิ

มินิ สองประตูดั้งเดิมเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่ผลิตโดย บริติช มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือ บีเอ็มซี และผู้ที่เข้ามาดูแลในปี ค.ศ.1959 ถึง ค.ศ.2000 ถือเป็นไอคอนของในช่วงปีค.ศ.1960

และประหยัดพื้นที่ รูปแบบขับเคลื่อนล้อหน้า (ซึ่งอนุญาตให้ใช้พื้นที่ 80 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นปูรถสำหรับผู้โดยสารและกระเป๋าเดินทาง) มีอิทธิพลต่อรุ่นของผู้ผลิตรถยนต์

รถยนต์รุ่นนี้ถือว่าอังกฤษเทียบเท่ากับ ฟ็อลคส์วาเกิน บีเทิล ร่วมสมัยในเยอรมัน ซึ่งได้รับความนิยมใกล้เคียงกันในอเมริกาเหนือ ในปี พ.ศ.2542 มินิได้รับเลือกให้เป็นรถยนต์ทรงอิทธิพลที่สุดอันดับสองของศตวรรษที่ 20 รองจากฟอร์ด โมเดล ที

รถยนต์ของแบรนด์มินิที่เป็นลักษณะสองประตูนั้นได้รับการออกแบโดย บีเอ็มซี โดย เซอร์ อเล็ค อิสซิโกนิส ผลิตที่โรงงาน ลองบริดจ์ และ คาวลีย์ ในอังกฤษ

โรงงาน วิคตอเรีย พัก เซตแลนด์ บริติช มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (ที่ออสเตรเลีย) ในซิดนีย์ ออสเตรเลีย และต่อมาในสเปน เบลเยียม ชิลี อิตาลี โปรตุเกส ใต้ แอฟริกา อุรุกวัย เวเนซุเอลา

และยูโกสลาเวีย มินิ มาร์ก 1 มีการอัปเดตที่สำคัญสามรายการในสหราชอาณาจักร มาร์ก 2, คลับแมน และ มาร์ก 3 ภายในมีรูปแบบต่างๆ มากมาย เช่น รถยนต์เอสเตท

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Mini

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

รถกระบะ รถตู้ และ มินิโมค ซึ่งเป็นรถบั๊กกี้ที่เหมือนรถจี๊ป มินิคูเปอร์ และ มินิคูเปอร์เอส เป็นรุ่นสปอร์ตที่ประสบความสำเร็จในฐานะรถแรลลี่ โดยชนะการแข่งขัน มอนติคาร์โลแรลลี่

สี่ครั้งตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 ถึง พ.ศ.2510 แม้ว่าในปี พ.ศ.2509 มินิจะถูกตัดสิทธิ์หลังจากเสร็จสิ้นพร้อมกับผู้เข้าแข่งขันชาวอังกฤษอีกหกรายซึ่ง รวมสี่คันแรกที่เสร็จสิ้น

ภายใต้การพิจารณาคดีที่น่าสงสัยว่ารถใช้ไฟหน้าและไฟสปอร์ตไลท์รวมกันอย่างผิดกฎหมาย เริ่มแรก มินิส์ วางตลาดภายใต้ชื่อ ออสติน

และ มอร์ริส ในชื่อ ออสติน เซเว่น และ มอร์ริส มินิ ไมเนอร์ จนในที่สุด มินิ สามารถเป็นแบรนด์ที่สามารถอยู่ในการดูแลของตัวเองได้ในปี ค.ศ.1969 มินิถูกวางตลาดอีกครั้งภายใต้ชื่อออสตินในปี ค.ศ.1980

บทความโดย ufabet.com

Effects of Great Recession

Effects of Great Recession จากในตอนที่แล้วทางแบรนด์รถยนต์ไครสเลอร์นั้นได้มีการโยกแยกหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในการปรับเปลี่ยนจิ๊ปให้ออกมาเป็นเดี่ยว และยังมีเรื่องราวมากมายในตอนที่แล้ว

ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านในตอนที่แล้ว สามารอ่านได้ที่ คลิก เดมเลอร์ไครสเลอร์ ในตอนนี้ในช่วงที่เลวร้ายทางเศรษฐกิจมากๆ อย่างที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อของ ต้มยำกุ้ง นั้นเอง

ความเลวร้ายทางเศรษฐกิจนี้มีผลไปทั่วโลกเหมือนกันนะครับ และแบรนด์รถยนต์ไครสเลอร์นั้นจะมีการรับมือยังไง วันนี้เราเตรียมข้อมูลเอาไว้ให้ทุกท่านกันแล้ว เอาหละร้อมกันแล้วใช่มั้ยไปชมกันเลย

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Effects of Great Recession

Effects of Great Recession ช่วงเวลาที่เลวร้ายทางเศรษฐกิจ

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ช่วงเวลาที่เลวร้ายทางเศรษฐกิจ

ช่วงเวลาที่เลวร้ายทางเศรษฐกิจในปี พ.ศ.2550-พ.ศ.2552 ผลักดันให้บริษัทที่เปราะบางต้องเผชิญ เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552 ผู้ผลิตรถยนต์ได้ยื่นคำร้องเพื่อคุ้มครองการล้มละลายในบทที่ 11

เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่เจรจาโครงสร้างหนี้และภาระผูกพันอื่นๆ ใหม่ ซึ่งส่งผลให้บริษัทผิดนัดชำระหนี้ที่มีหลักประกันมากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ รัฐบาลสหรัฐ อธิบายการกระทำของบริษัทว่าเป็น การล้มละลายทางศัลยกรรมในด้านต่างๆ

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ทรัพย์สินทั้งหมดของไครสเลอร์ได้ถูกขายให้กับ นิวไครสเลอร์ ซึ่งจัดเป็น บริษัทไครสเลอร์กรุ๊ปแอลแอลซี รัฐบาลกลางได้เข้ามาให้การช่วเหลือทางด้านการเงิน 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ซึ่งใกล้เคียงกับ 21 เปอร์เซ็นต์ ภายใต้ ซีอีโอ เซร์คีโอ มาร์ชิโอนน์ ได้เปิดตัว เวิร์ด คลาส แมนนิวแฟคเชอะนิ่ง หรือ ดับเบิ้ลยูซีเอ็ม ซึ่งเป็นระบบคุณภาพการผลิตอย่างละเอียดถี่ถ้วน

ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์หลายอย่างอีกครั้งด้วยคุณภาพและความหรูหรา รถจี๊ปแกรนด์เชอโรกีปี ค.ศ.2010 ได้กลายเป็นรถเอสยูวีที่ได้รับรางวัลมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Effects of Great Recession

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

แผนก แรม, จิ๊ป, ดอดจ์, เอวอาร์ที และ ไครสเลอร์ ถูกแยกจากกันเพื่อมุ่งเน้นไปที่เอกลักษณ์และแบรนด์ของตนเอง และมีการรีเฟรชโมเดลหลัก 11 รุ่นใน 21 เดือน โมเดลพีทีครูเซอะ , ไนโตร, ลิบเบอที

และ แคลลิเบอะ ถูกยกเลิก เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ.2011 ไครสเลอร์ได้ทำการคืนเงินที่กู้มาได้ 7.6 พันล้านดอลลาร์ ให้กับรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาและแคนาดากระทรวงการคลังสหรัฐ

ลงทุน 12.5 พันล้านดอลลาร์ในไครสเลอร์และกู้คืน 11.2 พันล้านดอลลาร์เมื่อมีการขายหุ้นของ บริษัท ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2554 ส่งผลให้ขาดทุน 1.3 พันล้านดอลลาร์

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ค.ศ.2011 เฟียต ได้ทำการเข้าซื้อหุ้นของไครสเลอร์ในตอนนั้นหน่วยงานที่ถืออยู่คือกระทรวงการคลังสหรัฐ การซื้อครั้งนี้ทำให้ไครสเลอร์เป็นเจ้าของต่างประเทศอีกครั้ง

คราวนี้เป็นแผนกสินค้าฟุ่มเฟือย ไครสเลอร์ 300 ได้รับตรา แลนเซีย ธีม ในตลาดยุโรปบางแห่ง ทำให้ แลนเซีย มีความจำเป็นอย่างมากในการทดแทนสำหรับเรือธง

บทความโดย เสือมังกร