3 Series based Alpinas 2

3 Series based Alpinas 2 หลังจากที่ในตอนที่แล้วที่เราได้พาทุกท่านไปเปิดเรื่องของรถยนต์ซีรี่ย์ของแบรนด์อัลพิน่าที่จะมีซีรี่ย์ที่น่าสนใจอยู่ 3 รุ่นด้วยกัน และในตอนที่แล้วจะเป็นเรื่องของรถยนต์รุ่นอัลพิน่า ซี 1

ที่เป็นรถยนต์ที่มีความน่าสนใจและยังมีแรงม้ามากถึง 168 แรงม้า ที่ตอนสมัยนั้นถือว่าสุดยอดมาก ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านในตอนที่แล้ว สามารถกลับไปอ่านได้ที่ คลิก เรื่องราวของรถยนต์อัลพิน่าซี 1

ในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมกันกับอีกอีกหนึ่งซีรี่ย์ของแบรนด์อัลพิน่ากัน เอาหละพร้อมแล้วไปชมกันเลย

3 Series based Alpinas 2

3 Series based Alpinas 2 เรื่องราวของรถยนต์ซีร่ย์อัลพิน่า

เรื่องราวของรถยนต์รุ่น อัลพิน่า ซี 2

ก่อนหน้านี้ที่เราได้บอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์อัลพิน่านั้นทุกท่านจะได้ยินชื่อของเครื่องยนต์ เอ็ม 20 และจริงๆเครื่องยนต์นี้มาจาก อัลพิน่า ซี 2 ที่เป็นรุ่นแรกของซี 2 นั้นเอง และเครื่องยนต์เอ็ม 20

ในรุ่นแรกของอัลพิน่านั้นจะมีความกว้งกว่าตัว เอ็ม 20 บี 25 ที่จะทำให้เข้ากันกับเพลาข้อเหวี่ยงที่มีขนาดที่ใหญ่กว่านั้นเอง และตัวนี้นั้นจะมีขนาดที่ใหญ่กว่า เอ็ม 20 บี 23 อยู่ประมาณ 3 นิ้ว ที่ทางแบรนด์ได้ทำแบบนี้ออกมาเป็นเพราะว่า

อยากที่จะทำให้เครื่องยนต์นั้นมีแรงบิดที่มากยิ่งขึ้น และก็สามารถทำได้สำเร็จที่ 2552 ซีซี และแรงม้าอยู่ที่ 182 แรงม้า พร้ออมด้วย 265 นิวตันเมตร และรุ่นนี้นั้นได้ถูกทำขึ้นช่วงปี ค.ศ.1985 -ค.ศ.1986

หลังจากที่มีการเปิดตัวในช่วงปีค.ศ.1986 อย่างซี 2 2.7 และทำให้ตัว 2.5 นั้นได้ถูกปรับเปลี่ยนให้ดียิ่งขึ้น ที่ปรับเปลี่ยนได้แรงม้ามาอีก 5 ตัวด้วยกัน และในตอนที่แบรนด์ได้เปิดตัวรุ่น อี 30 นั้นก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ซี 1 2.5

3 Series based Alpinas 2

และอี 30 นั้นเป็นรุ่นที่ถูกเปลี่ยนโครงภายนอกใหม่ และทำให้ตัว ซี 1 2.5 นั้นได้เลิกผลิตไปในที่สุด และต่อมานั้นในช่วงกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529 ตัวที่ดีกว่าอย่าง 2.7

นั้นก็ได้เปิดตัวและตัวรุ่นนี้ยังมีการใช้เครื่องยนต์ เอ็ม 20 บี 27 ที่ได้ทำการปรับเปลี่ยนให้ดียิ่งขึ้นและเรียกแรงม้าได้ถึง 207 ตัว และได้มีการทำเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เพื่อรองรับเรงม้าที่เพิ่มขึ้น ตอนแรกในการพัฒนานั้นตัวรุ่น อัลพิน่า ซี 2 2.7 จะใช้เครื่องและระบบต่างๆ อี 30 ที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ระบบนี้น่าจะมีส่วนที่ทำให้เครื่องยนต์และรถนั้นใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สูงสุดนั้นเอง

บทความโดย จีคลับ

3 Series based Alpinas

3 Series based Alpinas หลังจากที่ในตอนที่แล้วเราได้พาทุกท่านนั้นไปรู้จักกันกับรถยนต์รุ่นต่างๆของแบรนด์อัลพิน่า ที่ในแต่ละรุ่นนั้นจะมีรูปทรงตัวถังที่ไม่เหมือนกัน

และระบบรวมถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่จะแตกต่างกันไป และในแต่ละรุ่นก็ยังมีข้อดีข้อเสียต่างกันในการใช้งาน ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่าน สามารถกลับไปอ่านได้ที่ คลิก เรื่องราวรุ่นนถยนต์ของแบรนด์อัลพิน่า

ในวันนี้เราจะพาทุกท่านนั้นไปชมกันกับรถยนต์รุ่นที่มีต้นแบบมาจากรถยนต์รุ่นซีรี่ย์ 3 เอาหละหากพร้อมกันแล้วไปชมกันเลย

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

3 Series based Alpinas

3 Series based Alpinas เรื่องราวรุ่นรถยนต์จากซีรี่ย์ 3

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

เรื่องราวของรถยนต์รุ่น อัลพิน่า ซี 1

เรื่องราวต่างๆของรถยนต์รุ่น อัลพิน่า ซี 1 นั้นจริงๆแล้วรถยนต์รุ่นนี้มีต้นแบบมาจากรุ่น อี21 323ไอ ที่เป็นรถยนต์บีเอ็มคลาสิคเก่าที่เรายังเห็นในปัจจุบันนั้นเอง และรถยนต์รุ่นนี้นั้นยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น

แต่เป็นทั่วโลกเลยต่างหาก แต่อย่าเอารถยนต์รุ่นนี้มาเทียบกับในปัจจุบันนะครับ มันต่างกัน แต่ก่อนนั้น อัลพิน่า ซี 1 ถือว่าเป็นรถยนต์ที่มีความน่าจะกว่ารถยนต์รุ่นอื่นๆอยู่มาก รุ่น ซี 1 2.3 สามารถทำแรงบิดได้ที่ 168 แรงม้า

และ 225 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรได้ในเวลาที่ 7.8 วินาที และความเร็วท็อปสปีดอยู่ที่ 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และรถยนต์รุ่นนี้นั้นจะมีลูกสูบอยู่ในรูปแบบพิเศษอย่าง เมโฮ ที่เป็นลูกสูบตัวสำคัญที่สามารถสร้างกำลังเครื่องได้มาก

แถมยังมีตัวจุดระเบิดและระบบไอเสียที่เป็นแบบพิเศษใส่มาให้อีกด้วย และในรถยนต์รุ่น อัลพิน่า ซี 1 นั้นจะมีระบบเกียร์ที่มาถึง 5 สปีด ที่ช่วงการเข้าเกียร์นั้นสั้นมาก

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

3 Series based Alpinas

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

แต่ในรถยนต์รุ่น อัลพิน่า ซี 1 นั้นมีการผลิตออกมาเพียงแค่ 35 คันเท่านั้นทำให้รถยนต์รุ่นนี้หายากมาก แต่ทางด้านแบรนด์บีเอ้มดับเบิ้ลยูนั้นก็ได้มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่น 325ไอ อัลพิน่า ที่เป็น ซี 2 2.5

และยังมีรุ่นอื่นอีกอย่าง 2.7 และรถยนต์รุ่นพวกนี้นั้นมีกำลังเครื่องยนต์อยู่ที่ระหว่าง 190-210 แรงม้า และยังมีส่วนที่ได้รับการอัพเกรดมาเพิ่มอย่างช่วงล่างและระบบกันสะเทือน

และรถยนต์รุ่น ซี 1 2.5 และรุ่น ซี 2 2.6 ที่เป็นรถยนต์รุ่นแรกๆที่ได้ทำออกมานั้น ได้ใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกันนั้นก็คือเครื่องยนต์ เอ็ม 20 บี 23

รถยนต์รุ่นนี้นั้นมีการออกแบบมาเป็นอย่างดี และในปัจจุบันนี้ก็ยังมีให้ทุกท่านเห็นกันอยู่ ต่างรถยนต์สมัยก่อนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นถือได้ว่ามีการออกแบบมากดีและทนทานมาก

บทความโดย ufabet1688

Alpina Current lineup 5

Alpina Current lineup 5 หลังจากที่ในตอนที่แล้วเราได้พาทุกท่านไปชมกันกับเรื่องราวของรถยนต์รุ่น  อัลพิน่า บี 5 ไบเทอร์โบ ที่เป็นรถยนต์ที่ผู้ซื้อนั้นสามารถเลือกได้ว่าจะเอาเป็นตัว ทัวร์วิ่งหรือซะลูน

และในรุ่นนี้นั้นยังมีกำลังเครื่องที่แรงมากถึง 599 แรงม้าเลยทีเดียว และยังมีรุ่น อัลพิน่า ดี 5 เอส อีกด้วย ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านในตอนที่แล้ว สามารถกลับไปอ่านได้ที่ คลิก เรื่องราวรถยนต์ของแบรนด์อัลพิน่า

ในวันนี้นั้นเราจะพาทุกท่านไปชมกันกับรถยนต์รุ่นอะไร เอาหละพร้อมแล้วไปชมกันเลย

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Alpina Current lineup 5

Alpina Current lineup 5 เรื่องราวรถยนต์รุ่นต่างๆของอัลพิน่า

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

เรื่องราวของรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 7

ในรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 7 นั้นเป็นหนึ่งในรถยนต์ของแบรนด์อัลพิน่าที่ใช้งานกันในประเทศอเมริกาและแคนนาดา ที่จะมีรถยนต์รุ่นเดียวกันอย่าง อัลพิน่า บี 6 และรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 7 นั้นได้ถูกผลิตขึ้นที่เมือง ดิ้งโก้ฟิง ที่ประเทศเยอรมันนี

และจะมีรถยนต์รุ่น ซีรี่ย์ 7 ของบีเอ็มอีกด้วย ในรถยนต์รุ่นนี้นั้นได้มีการติดตั้ง เอ็ม 760แอลไอ ที่เป็นเหมือนกับสีพิเศษที่จะเป็นอัลพิน่า กรีน ที่มีจำนวนจัดกัด ทางด้านแบรนด์บีเอ็มดับเบิ้ลยู

นั้นได้มีการอนุญาตให้ทางด้านอัลพิน่านั้นทำรถยนต์รุ่น ซีรี่ย์ 7 ที่จะมีกำลังเครื่องที่สูงมาก แต่ทางแบรนด์นั้นไม่อยากในทางรุ่น บีเอ็มดับเบิ้ลยู เอ็ม ที่มีกำลังเครื่องสูงอย่างเดียว

ในตอนที่รถยนต์รุ่นนี้เข้าสู่ตลาดนั้นทางแบรนด์ได้มีการประกาศอย่างดีถึงเรื่องกำลังเครื่องยนต์ที่รวดเร็วอยู่แล้ว แต่ในรุ่นนี้นั้นจะมีเป็นเกียร์ธรรมดาที่เป็นคลัตช์แบบคู่ที่เป็ยระบบอัตโนมัติ

และรถยนต์รุ่นนี้นั้นยังมาพร้อมกับเครื่อง วี 12 บีเอ็มดับเบิ้ลยู 760 แอลไอ และรถยนต์รุ่นนี้นั้นยังมีคู่แข่งที่เข้ามาในตลาดรถยนต์พร้อมกันอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 63 เอเอ็มจี และ อาวดี้ เอส 8

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Alpina Current lineup 5

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

เรื่องราวของรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 6 แกรนคูเป้

ในรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 6 แกรน คูเป้ เอ็กซ์ไดรฟ์ ในรถยนต์รุ่นนี้นั้นจะมีสมรรถนะที่สูงและถูกเปิดตัวในช่วงปีค.ศ.2014 และรถยนต์รุ่นนี้นั้นทำขึ้นโดยแบรนด์ อัลพิน่า และยังมีทางแบรนด์บีเอ็มดับเบิ้ลยูช่วยเรื่องของการตลาดด้วย

แต่ในรถยนต์รุ่นนี้นั้นจัมีวางจำหน่ายในประเทศอเมริกาและแคนาดาเท่านั้น แต่ทางแบรนด์อัลพิน่าก็ได้มีการขยายตลาดออกไปอีกด้วย ในรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 6 แกรนคูเป้

รถยนต์รุ่นนี้นั้นมีกำลังเครื่องถึง 540 แรงม้า และ 730 นิวตันเมตร ที่มีเครื่องขนาด 4.4 ลิตร และมาพร้อมกับ ทวินเทอร์โบ วี 8 ที่เคยถูกใส่ในรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 5 ไบเทอร์โบ และ บี 6 ไบเทอร์โบ คูเป้ แต่รถยนต์พวกนี้นั้นไม่ได้วางขายในอเมริกาเหนือ

บทความโดย จีคลับ

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Alpina Current lineup 4

Alpina Current lineup 4 หลังจากที่ในตอนที่แล้วเราได้พาทุกท่านนั้นไปรู้จักกันกับรถยนต์รุ่นหนึ่งของแบรนด์อัลพิน่าก็คือรุ่น อัลพิน่า ดี 3 ไบเทอร์โบ ในรถยนต์รุ่นนี้นั้นจะมีให้ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ถึง 2 แบบให้ผู้ซื้อได้เลือกก็คือ แบบซะลูน และ แบบทัวร์ริ่ง

และยังมีอัลพิน่า บี 4 ไบเทอร์โบ ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่าน สามารถกลับไปอ่านได้ที่ คลิก อัลพิน่า ดี 3-4 ไบเทอร์โบ ในวันนี้เราจะพาทุกท่านนั้นไปชมกันกับรถยนต์รุ่นอะไร เอาหละหากทุกท่านพอกันแล้วละก็ไปชมกันเลย

Alpina Current lineup 4

Alpina Current lineup 4 เรื่องราวรถยนต์แต่ละรุ่นของอัลพิน่า

เรื่องราวของรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 5 ไบเทอร์โบ

ในรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 5 ไบเทอร์โบ นั้นได้เปิดตัวครั้งแรกที่งานเจนีวามอเตอร์โชว์ ในปี 2017 ที่จะมีอยู่ 2 แบบด้วยกันนั้นก็คือ แบบทัวร์ริ่ง และ แบบซะลูน และยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

และในรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 5 ไบเทอร์โบ นั้นได้นำเอาเครื่องยนต์ เอ็น 63 เอ็ม 30 ที่เป็นเครื่องยนต์ วี 8 ขนาด 4.4 ลิตรถือว่าเป็นเครื่องที่ใหญ่มาก และรถยนต์รุ่นนี้นั้นมีกำลังมาถึง 599 แรงม้า

และ 800 นิวตันเมตร และได้มีการรับรองจากเครื่อง เอ็น 63 บี 44 โอ 2 วี 8 ที่ได้มีการปรับปรุงลูกสูบใหม่ทั้งหมด และในรถยนต์รุ่นนี้นั้นจะมีเทอร์โบชาร์จเจอร์ การ์เร็ต ที่มีระบบแบบเลื่อนที่มาเป็นแบบคู่แบบใหม่

และยังไม่หมดเพียงเท่านี้ยังมีหัวเทียนที่เป็นแบบใหม่โดย เอ็นจีเค บี 5 และรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 5 ไบเทอร์โบ นั้นสามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3.5 และรถยนต์รุ่นนี้นั้นท็อปสปีดอยู่ที่ 330 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และที่น่าสนใจก็คือรถยนต์รุ่นอัลพิน่า บี 5 ไบเทอร์โบนั้นเป็นรถยนต์เอสเตทที่สามารถทำความเร็วได้สูงที่สุด เท่าที่รถในปัจจุบันจะมี

Alpina Current lineup 4

เรื่องราวของรถยนต์รุ่น อัลพิน่า ดี 5 เอส


รถยนต์รุ่น อัลพิน่า ดี 5 เอส นั้นได้เปิดตัวที่ในงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ ในปี 2017 ในรถยนต์รุ่นนี้นั้นจะมี 2 แบบด้วยกันก็คือ แบบ ทัวร์ริ่ง และ แบบซีดาน

เช่นเคยคือรถยนต์รุ่นนี้นั้นเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ รถยนต์รุ่นนี้จะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล บี 57 ดี 30 ที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลแบบอินไลน์-หก ที่เครื่องยนต์นั้นมีขนาดอยู่ที่ 3.0 ลิตร

ที่เครื่องยนต์ตัวนี้นั้นได้ทำการปรับเปลี่ยนมาเรียบร้อยแล้ว และรถยนต์รุ่นนี้นั้นจะมีเทอร์โบชาร์จเจอร์ถึง 3 ตัวด้วยกัน ทำให้มีกำลังเครื่องถึง 387 แรงม้า และ 800 นิวตันเมตร

บทความโดย ufabet1688

Alpina Current lineup 3

Alpina Current lineup 3 หลังจากที่ในตอนที่แล้วเราได้พาทุกท่านนั้นไปรู้จักกันกับรถยนต์รุ่นอัลพิน่า บี 3 ไบเทอร์โบ ที่เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ เพราะว่ารุ่นนี้ลูกค้าสามารถที่จะเลือกซื้อแบบรถที่ตัวเองชอบได้

เพราะรถยนต์รุ่นนี้มี 2 แบบก็คือ ซีดาน และ ทัวร์ริ่ง และจะมีความแตกต่างกันพอสมควร ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่าน สามารถกลับไปอ่านได้ที่ คลิก อัลพิน่า บี 3 ไบเทอร์โบ

ในวันนี้เราจะพาไปชมกันต่อกับรถยนต์รุ่นอื่นๆของอัลพิน่า เรื่องราวในวันนี้จะเป็นรถยนต์รุ่นอะไรและน่าสนใจมากแค่ไหน เอาหละพร้อมแล้วไปชมกันเลย

Alpina Current lineup 3

Alpina Current lineup 3 เรื่องราวรถยนต์แต่ละรุ่นของอัลพิน่า

เรื่องราวของรถยนต์รุ่น อัลพิน่า ดี 3 ไบเทอร์โบ

เรื่องราวของรถยนต์รุ่น อัลพิน่า ดี 3 ไบเทอร์โบ นั้นถูกนำมาโชว์ตัวในงาน ไอเอเอ 2013 และรถยนต์รุ่นนี้นั้นมีต้นแบบมาจาก บีเอ็มดับเบิลยู เอฟ 30 และรถยนต์รุ่น อัลพิน่า ดี 3 ไบเทอร์โบ นั้นจะมีให้เลือกถึง 2 แบบด้วยกัน

นั้นก็คือ แบบทัวร์ริ่ง และ ซะลูน (แปลตรงตัวก็คือรถเก๋งขนาดใหญ่) และรุ่นนี้นั้นจะใส่เครื่องยนต์ดีเซลที่มาพร้อมกับเทอร์โบชาร์จ 2 ตัว ขนาด 3.0 ลิตร และมี 6 สูบด้วยกัน

และรถยนตร์รุ่นอัลพิน่า ดี 3 ไบเทอร์โบนั้นมีกำลังมากถึง 345 แรงม้า และ 700 นิวตันเมตร และยังไมพอในรถยนต์รุ่นนี้ที่เป็นแบบทัวร์ริ่งนั้นจะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ใส่ เอ็กซ์ไดรฟ์ มาให้

เรื่องราวของรถยนตร์รุ่น อัลพิน่า บี 4 ไบเทอร์โบ

ในรถยนตร์รุ่น อัลพิน่า บี 4 ไบเทอร์โบ นั้นนำออกมาเปิดตัวครั้งแรกที่งานในช่วงปีค.ศ.2014 (ไม่ทราบที่จัดงาน) และรถยนตร์รุ่นนี้นั้นมีต้นแบบมาจาก บีเอ็มดับเบิลยู 435 ไอ

และในรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 4 ไบเทอร์โบ นั้นใส่เครื่องยนต์แบบ 6 สูย เอ็น 55 และรุ่นนี้ถูกปรับเปลี่ยนเทอร์โบชาร์จเจอร์มาใหม่ให้เป็นแบบคู่ และยังมีอินเตอร์คูลเลอร์ที่มีความพิเศษก็คือจะมีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 61 เปอร์เซ็นต์จากของเดิม

Alpina Current lineup 3

ก็นำเอารถยนต์มาเป็นต้นแบบนั้นอัลพิน่าไม่ได้ทำตามทั้งหมด แต่ทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ทำให้เพลาข้อเหวี่ยงที่เป็นแบบใหม่ และแถมด้วยการยกลูกสูบใหม่ทั้งหมด

และจากการที่อัลพิน่านั้นได้ปรับเปลี่ยนหลายอย่างทำให้รถยนตร์รุ่นนี้นั้นมีกำลังถึง 402 แรงม้า และ 601 นิวตันเมตร

ในวันนี้เราพามารู้จักกันกับรถยนต์ 2 รุ่นนี้ก่อนและหากท่านใดสนใจนั้นสามารถไปหาชมและศึกษากันได้นะครับ ในตอนหน้าจะเป็นรถยนต์รุ่นอะไรของอัลพิน่าติดตามต่อได้ในตอนหน้า

บทความโดย จีคลับ

Alpina Current lineup 2

Alpina Current lineup 2 หลังจากที่ในตอนที่แล้วเราได้พาทุกท่านไปรู้จักกันกับรถยนต์รุ่นที่ชื่อว่า เอ็กซ์ดี 3 และ เอ็กซ์ดี 4 ที่เป็นรถยนต์ที่ได้มีการเปิดตัวพร้อมๆกันที่งานเจนีวามอเตอร์โชว์ ที่จัดขึ้นในช่วงปีค.ศ.2018

แต่รถยนต์รุ่นนี้จะมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ทั้งแรงม้าและระบบต่างๆ ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่าน สามารถกลับไปอ่านได้ที่ คลิก เรื่องราวรถยนต์รุ่นอัลพิน่า เอ็กซ์ดี 3-4

ในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมกันกับรุ่นรถยนต์ของแบรนด์อัลพิน่ากัน ในตอนนี้จะเป็นรถยนต์รุ่นอะไรเอาหละพร้อมแล้วไปชมกันได้เลย

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Alpina Current lineup 2

Alpina Current lineup 2 เรื่องราวรถยนตร์แต่ละรุ่นอัลพิน่า

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

เรื่องราวรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 3 ไบเทอร์โบ

หากพูดถึงรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 3 ไบเทอร์โบ นั้นรุ่นนี้ถูกทำขึ้นในช่วงมีนาคม ในปีค.ศ.2013 และรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 3 ไบเทอร์โบ มีแบบอย่างมาจาก บีเอ็มดับเบิ้ลยู เอฟ 30 335ไอ ที่ในรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 3 ไบเทอร์โบ

นั้นจะมีเครื่องยนต์ที่เป็นเครื่อง 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร และตามชื่อเลยคือมี ไบเทอร์โบ ทำให้รถยนต์รุ่นนี้มีกำลังของเครื่องยนต์มากกว่า 404 แรงม้า และ 600 นิวตันเมตร และรถยนต์รุ่น อัลพิน่า บี 3 ไบเทอร์โบ

นั้นสามารถที่จะเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียงแค่ 4 วินาที และอัลพิน่า บี 3 ไบเทอร์โบสามารถทำท็อปสปีดอยู่ที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อัลพิน่า บี 3 ไบเทอร์โบ นั้นเป็นรถยนต์รุ่นที่ผู้ซื้อสามารถที่จะเลือกซื้อได้ ที่จะมีให้เลือกแบบซีดานและทัวร์ริ่ง และ 2 แบบนี้จะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ เอ็กซ์ไดรฟว์

ทางแบรนด์รถยนต์อัลพิน่านั้นได้มีการปรับเปลี่ยนโฉมของภายนอก ในตัวของสปอยเลอร์ที่จะปรับทั้งด้านหลังและด้านหน้า และยังมีการแก้ระบบท่อไอเสียที่ปรับเปลี่ยนเป็นออก 4 ทาง

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Alpina Current lineup 2

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

และต่อมาในช่วงมีนาคม ค.ศ.2017 ทางแบรนด์อัลพิน่านั้นได้มีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ของรุ่น อัลพิน่า บี 3 ไบเทอร์โบ ให้ดียิ่งขึ้นและสามารถดึงแรงม้าของเครื่องยนต์ได้ถึง 434 แรงม้า และจะมีรถยนต์ที่เป็นแบบเดียวกัน

แต่จะมีต้นแบบมาจาก จี20 3 ซีรี่ย์ ที่ในรุ่นแรกนั้นได้ใช้ เอฟ 30 ในรถยนต์รุ่นใหม่นี้นั้นจะใช้เครื่องยนต์ที่แตกต่างกันจากรุ่นและ โดยรุ่นนี้จะใช้เครื่องยนต์ เอส 58 ขนาด 3.0 ลิตร ไบเทอร์โบ อินไลน์ ซิก

ที่มีกำลังของเครื่องยนต์ถึง 456 แรงม้า และ 700 นิวตันเมตร และดูเหมือนว่ารถยนต์รุ่นนี้ที่ทำออกมาใหม่นั้นจะมีกำลังเครื่องมากกว่ารุ่นอื่นๆ อย่างเช่น บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม 3 คอมพิทิชเชิน

บทความโดย ufabet1688

Alpina Current lineup

Alpina Current lineup หลังจากที่ในตอนที่แล้วเราได้พาทุกท่านไปชมกันกับเรื่องราวของแบรนด์อัลพิน่าที่มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ที่จะเห็นว่าตอนที่แล้วอัลพิน่าได้รับการรับรองแล้ว

แต่ก็ยังคงต้องใช้ชื่อของแบรนด์บีเอ็มในการค้าขายอยู่ และเรื่องของชิ้นส่วนบางอย่างก็ต้องส่งไปที่โรงงานของแบรนด์บีเอ็มเพื่อช่วยทำและส่งกลับมา ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่าน สามารถกลับไปอ่านได้ที่ คลิก ความแตกต่างของอัลพิน่า

ในวันนี้เราจะพาไปชมกันกับรถยนต์แต่ละรุ่นของแบรนด์อัลพิน่ากัน ว่าแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างยังไง เอาหละพร้อมแล้วไปชมกันเลย

Alpina Current lineup

Alpina Current lineup เรื่องราวของรถยนต์แต่ละรุ่นอัลพิน่า

เรื่องราวรถยนต์รุ่นอัลพิน่า เอ็กซ์ดี 3

รถยนต์รุ่น อัลพิน่า เอ็กซ์ดี 3 นั้นได้เปิดตัวครั้งแรกใน งานเจนีวามอเตอร์โชว์ ในช่วงปีค.ศ.2018 รุ่นเอ็กซ์ดี 3 ในมาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล บี 57 อินไลน์-ซิก เครื่องยนต์ตัวนี้มีการปรับเปลี่ยนใหม่

อัลพิน่านั้นได้ทำให้ฝั่งของคนขับอยู่ทางฝั่งซ้ายที่มาพร้อมกับเทอร์โบถึง 4 แบบ เครื่องยนต์ของรุ่นเอ็กซ์ดี 3 นั้นมีกำลังของเครื่องมากถึง 383 แรงม้า และ 770 นิวตันเมตร เอ็กซ์ดี 3 สามารถเร่งเครื่องจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 4.6 วินาที

และท็อปสปีดของรุ่นเอ็กซ์ดี 3 ทำความเร็วสูงสุดถึง 266 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเอ็กซ์ดี 3 ในรุ่นที่ขับทางขวานั้นจะมาพร้อมกับ ไบเทอร์โบ ที่มีกำลังเครื่องอยู่ที่ 328 แรงม้า และ 700 นิวตันเมตร

รุ่นนี้สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 4.9 วินาที และท็อปสปีดของรุ่นนี้จะอยู่ที่ 254 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในสองรุ่นนี้จะมีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย

Alpina Current lineup

เรื่องราวรถยนต์รุ่นอัลพิน่า เอ็กซ์ดี 4

ในรุ่นของอัลพิน่าเอ็กซ์ดี 4 นั้นเปิดตัวพร้อมกันกับ เอ็กซ์ดี 3 นั้นก็คือในงานเจนีวามอเตอร์โชว์ ในช่วงปีค.ศ.2018 ที่ทางแบรนด์อัลพิน่าได้ใส่เครื่องยนต์ดีเซล บี 57 เหมือนกันกับ เอ็กซ์ดี 3 แต่ในรุ่นเอ็กซ์ดี 4

นั้นจะมีเทอร์โบชาร์จเจอร์ถึง 4 ตัวด้วยกัน และรุ่นนี้มีกำลังอยู่ที่ 382 แรงม้า และ 568 นิวตันเมตร ในรถยนต์รุ่นเอ็กซ์ดี 4 จะเป็นรูปแบบเอสยูวีที่ใช้น้ำมันดีเซล ที่ทางแบรนด์ได้บอกว่าเป็นรถเอสยูวีที่เป็นเครื่องดีเซลที่สามารถทำความเร็วได้มากที่สุด

และรถยนต์รุ่น เอ็กซ์ดี 4 สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 4.6 วินาที และท็อปสปีดของเอ็กซ์ดี 4 อยู่ที่ 268 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเอ็กซ์ดี 4 นั้นจะวางขายในตลาดที่เป็นรถเฉพาะ

บทความโดย จีคลับ

Alpina Brand distinctions

Alpina Brand distinctions หลังจากที่เราได้พักเรื่องราวของแบรนด์อัลพิน่ากันไป และพาทุกท่านไปรู้จักกันกับรถยนต์รุ่นคลาสสิกของแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เป็นรุ่นดับเบิ้ลยู 210 ที่จะมีความนิยมมากในเมืองไทยที่จะเห็นว่ามีคนใช้กันอยู่เยอะมาก

และรถยนต์รุ่นนี้ยังใช้งานได้ดีและว่ากันว่าพังยากมากทั้งอึดและถึก ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านในตอนที่แล้ว สามารถกลับไปอ่านได้ที่ คลิก เรื่องราวเครื่องยนต์รุ่นดับเบิ้ลยู 210

ในวันนี้เราจะพาไปชมกันกับความแตกต่างของแบรนด์อัลพิน่าว่าจะต่างจากแบรนด์อื่นๆยังไง เอาหละพร้อมแล้วไปชมกันเลย

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Alpina Brand distinctions

Alpina Brand distinctions ความแตกต่างของแบรนด์

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

ความแตกต่างของแบรนด์อัลพิน่า

หากพูดถึงความแตกต่างของแบรนด์อัลพิน่านั้นต้องย้อนกลับไปในช่วงปีค.ศ.1983 แบรนด์อัลพิน่าได้ถูกยอมรับหรือว่าถูกรับรองจากกระทรวงคมนาคมแห่งสหพันธรัฐเยอรมัน

เหมือนกับว่าเป็นการยืนยันว่านี้เป็นแบรนด์ที่ผลิตรถยนต์ที่มีมาตราฐานนะ เพราะว่าก่อนหน้านี้ทางแบรนด์อัลพิน่ายังคงต้องใช้ชื่อของแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู และหลังจากที่แบรนด์อัลพิน่าได้รับการรับรองแล้วทำให้แบรนด์อัลพิน่าสามารถใช้ชื่อแบรนด์ตัวเองได้

แต่ต่อให้แบรนด์อัลพิน่าได้รับการรับรองแล้วแต่ก้ยังคงอยู่ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูอยู่ดี เพราะว่าอัลพิน่าต้องให้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูรับรองรถยนต์ให้อยู่ในบางที่

และเรื่องของความแตกต่างของแบรนด์อัลพิน่านั้นก็คือเรื่องของโมเดลหรือน่าจะเป็นตัวถัง ที่ทางแบรนด์อัลพิน่านั้นผลิตเอง แล้วผลิตเองมันแตกต่างยังไงหละ?

ก็คือทางแบรนด์ต้องผลิตเองก็แปลว่าโมเดลนั้นทำขึ้นด้วยมือ และคนก็จะสงสัยว่าผลิตเองทำด้วยมือแล้วมันดียังไงละ? การที่แบรนด์ทำขึ้นเองจากมือนั้นจะมีความละเอียดอ่อนมากกว่า

แต่บางครั้งแบรนด์ก็ต้องมีการจูนเครื่องยนต์ด้วย บางครั้งแบรนด์อัลพิน่าก็ต้องส่งไปที่โรงงานของแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู เพื่อที่จะให้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูทำเรื่องของเครื่องยนต์และเรื่องของตัวถังให้

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Alpina Brand distinctions

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

เหมือนกับการเช็คความละเอียด และทางแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูพอเสร็จงานก็จะส่งกลับไปที่โรงงานของอัลพิน่า และทางแบรนด์อัลพิน่าก็จะนำเอามาประกอบด้วยมือต่อ

เหมือนว่าอัลพิน่าส่งไปให้บีเอ็มเพื่อที่จะประหยัดเวลาการผลิตให้น้อยลงนั่นเอง และหลังจากที่แบรนด์อัลพิน่าได้รับของจากบีเอ็มแล้ว อัลพิน่าก็จะนำมาประกอบ

และประกอบภายในที่จะเป็นชิ้นส่วนที่มีรูปแบบที่มีความเฉพาะของแบรนด์อัลพิน่า เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านี้ติดตามตอนต่อไป

บทความโดย ufabet1688

🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎

Benz E-Class W210 Part 2

Benz E-Class W210 Part 2 หลังจากในตอนที่แล้วเราได้พาทุกท่านไปรู้จักกันกับรถยนต์ของแบรนด์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น ดับเบิ้ลยู 210 ที่เป็นรถยนต์รุ่นที่ถึกทนที่มีช่วงล่างที่แน่น

เป็นที่นิยมมากในประเทศไทยถึงเรื่องความทนทาน และความเป็นคลาสสิกที่ยังคงใช้ได้อยู่ในปัจจุบันไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น ประเทศต่างๆก็ยังมีความนิยมเช่นกัน

ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่าน สามารถกลับไปอ่านได้ที่ คลิก การออกแบบดับเบิ้ลยู 210 ในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมกันกับเรื่องของสมรรถนะของรถยนต์รุ่นนี้กัน เอาหละพร้อมแล้วไปชมกันเลย

Benz E-Class W210 Part 2

Benz E-Class W210 Part 2 เรื่องราวต่างๆของดับเบิ้ลยู210

เรื่องราวเครื่องยนต์รุ่นดับเบิ้ลยู 210

ต้องบอกก่อนว่าตอนที่มีการทำรถยนต์รุ่นดับเบิ้ลยู 210 ออกมานั้นเป็นครั้งแรกของแบรนด์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยที่มีการใช้เครื่องยนต์ วี 6 (รุ่นปี1998) หลังจากที่แต่ก่อนนั้นแบรนด์ได้มีการใช้เครื่องยนต์ในรูปแบบ 6 สูบ

ที่ใช้ในช่วงปีพ.ศ.2538-พ.ศ.2540 และเครื่องยนต์ที่ได้มีการนำเอามาใช้งานในรถยนต์รุ่นนี้ก็คือเครื่องยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ็ม 112 ที่เป็นเครื่องตัวใหม่ที่มีกำลังของเครื่องถึง 165 กิโลวัตต์ หรือ 221 แรงม้า

ถือได้ว่าแรงมาก แรงกว่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆในปัจจุบันบางรุ่นสักอีก และสามารถทำแรงบิดได้อยู่ที่ 315 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์นี้สามารถเร่งจาก 0-60 ไมล์ หรือ 97 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลา 6.9 วินาที

และรถยนต์รุ่นดับเบิ้ลยู 210 ยังมีอยู่หลายเวอร์ชั่นด้วยกัน อย่างเช่น อี 430 (ค.ศ.1998-ค.ศ.2002) อี 420 (ค.ศ.1997) และ อี 55 เอเอ็มจี (ค.ศ.1999-ค.ศ.2002) รุ่นนี้จะมีกำลังเครื่องยนต์ถึง 260 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 349 แรงม้า

ถือได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงมาก และยังมีเคื่องที่ไว้ดูดควันเสียของรถยนต์ที่มาในแบบปกติ 5.4 ลิตร เพราะในต่างประเทศเคร่งเรื่องของควันเสียมากบางรัฐอาจจะสามารถใช้ได้แต่บางรัฐนั้นจะห้ามนำรถยนต์เข้าเลย

Benz E-Class W210 Part 2

เพราะอาจจะทำให้สภาพอากาศของรัฐนั้นเสีย และที่ในอเมริกาเหนือนั้นจะมีรุ่นที่ยังเป็นเครื่องยนต์ดีเซลอยู่ถึง 2 รุ่นด้วยกัน รุ่นแรกก็คือ รุ่นที่ไม่มีเทอร์โบชาร์จใส่มาให้ (พ.ศ.2539-พ.ศ.2540)

และรุ่นที่มีเทอร์โบชาร์จใส่มาก (พ.ศ.2541-พ.ศ.2542) และในช่วงปีพ.ศ.2542 ทางแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ทำการปิดโรงงานเกี่ยวกับดีเซลที่อยู่ในคลาส อี

ทั้งในอเมริกาเหนือ และโซนยุโรป ทำให้รถยนต์รุ่นหลังๆนั้นเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ดีเซลมาเป็น คอมมอนเรล หรือตัว ซีดีไอ นั้นเอง และเป็นคอมมอนเรลที่มีคุณภาพสูงด้วย

บทความโดย จีคลับ

Mercedes-Benz E-Class (W210)

Mercedes-Benz E-Class (W210) หลังจากในตอนที่แล้วเราได้พาทุกท่านไปชมกันกับเรื่องราวของ อัลพิน่า ที่เป็นแบรนด์รถยนต์ที่มาจากประเทศเยอรมนี ที่เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีความน่าสนใจมากอีกแบรนด์หนึ่ง

และในตอนนี้เราจะของพักเรื่องราวของแบรนด์อัลพิน่าไว้ก่อน ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านในตอนที่แล้ว สามารถกลับไปอ่านได้ที่ คลิก เรื่องราวแบรนด์อัลพิน่า

และในวันนี้จะเป็นเรื่องราวของรุ่นรถยนต์ที่มีความคลาสสิคอีกรุ่นหนึ่งนั้นก็คือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส รุ่น ดับเบิ้ลยู210 ที่เป็นรุ่นที่มีความคลาสสิคและในประเทศไทยจะเห็นได้บ่อยมาก เอาหละหากพร้อมกันแล้วละก็ไปชมกันได้เลย

Mercedes-Benz E-Class (W210)

Mercedes-Benz E-Class (W210) รถยนต์รุ่นคลาสสิค

เรื่องราวของรถยนต์ดับเบิ้ลยู 210 การออกแบบและการปรับเปลี่ยนโฉมใหม่

ในตอนที่ดับเบิ้ลยู 210 ได้ออกมานั้นได้มีการทำรถยนต์ที่เป็นทรง คูเป้ คอนเซปต์ ออกมา และรวมถึง ดับเบิ้ลยู 210 อีคลาส ในตอนนั้นได้มีเรื่องราวในการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ในปีค.ศ. 1993 ที่ประเทศเยอรมนี

และอีกที่หนึ่งก็คือที่ประเทศอเมริกา ในช่วงวันที่ 25 สิงหาคม ปีค.ศ.1993 และหลังจากนั้นผู้มีสิทธิ์ก็ได้ทำการจดสิทธิ์ที่เป็นคนออกแบบในรุ่น ดับเบิ้ลยู 210 ที่เป็นโฉมที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ (ซึ่งออกแบบในปีค.ศ.1997)

ในรุ่น ดับเบิ้ลยู 210 รุ่นปี 2000 ในรุ่นนี้ระบบมัลติฟังก์ชั่นต่างของรุ่นนี้จะถูกเอามารวมที่ควบคุมไว้ที่พวงมาลัย และในเรื่องของสถานะต่างๆก็จะถูกใส่ไว้ที่หน้าปัด ไม่ว่าจะเป็น ตัวแสดงความเร็ว

การปรับและการควบคุมพวงมาลัย และระบบที่ทันสมัยอย่าง เสียง ตัวแสดงเส้นทาง และโทรศัทพ์ ในช่วงปีนั้นถือว่าทันสมัยมากๆ และในรุ่นนี้จะมีระบบเกียร์อยู่ที่ 5 สปีด และจะมีตำแหน่งต่างๆโชว์อยู่

Mercedes-Benz E-Class (W210)

ที่จะเป็นระบบที่เปลี่ยนเป็นควบคุมเกียร์เอง ในตอนนั้นในท้องตลาดรถยนต์เรียกกันว่า ทัช ชิฟท์ ระบบนี้จะเป็นระบบที่มีความทันสมัยที่มาในระบบ อิเล็กทรอนิกส์ และระบบนี้จะมาแทนที่ของ เกเทิด ชิฟท์ ที่ถูกใช้ในรุ่นก่อนๆหน้า

ในบอดี้ภายนอกที่จะถูกเปลี่ยนใหม่เกือบหมด และมีการเปลี่ยนออกมาในลักษณะที่มีความคล้ายกันกับ ซีแอลเค ในส่วนกันชนก็มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นโฉมใหม่ ตัวถัง และไฟท้ายที่มีความคมขึ้น

รวถึงกระโปรงหลังก็ถูกแก้ไขเหมือนกัน ในช่วงที่มีการผลิตดับเบิ้ลยู 210 ออกมานั้น จะมีรุ่นที่เป็นรุ่นที่พิเศษอย่างรุ่น อี 320 อี 430 ที่ในรุ่นนี้จะมีอยู่สองสีด้วยกันก็คือ เงินควอทซ์ ที่เป็นรุ่นที่ผลิตออกมาน้อย และสีดำออบซิเดียน ที่จะใส่ไฟไฟซีนอนมาให้ในตัว

บทความโดย ufabet1688