BMW Motorcycles

BMW Motorcycles เรื่องราวของแบรนด์รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูนั้นหลายๆท่านคงจะคิดถึงรถยนต์เพียงอย่างเดียว บางท่านนั้นอาจจะยังไม่รู้ว่าแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูนั้นได้มีการทำมอเตอร์ไซต์ขึ้นมาด้วย

บีเอ็มดับเบิลยูนั้นมีการสร้างมอเตอร์ไซต์อยู่หลายรุ่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นในทรงสปอร์ต ทัวร์ริ่ง หลายท่านนั้นคงจะคิดว่าบีเอ็มดับเบิลยูนั้นทำมอเตอร์ไซต์ออกมาแล้วจะดีมั้ย ท่านต้องลองดูครับผมบอกได้เลยว่ามอเตอร์ไซต์ของบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูนั้นไม่แพ้รถยนต์แน่นอน

วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกันกับมอเตอร์ไซต์ขอองแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู ถ้าหากผิดพลาดตรงไหนก็ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ เอาหละไปชมกันเลย

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

BMW Motorcycles

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

BMW Motorcycles เรื่องราวของมอเตอร์ไซต์ของแบรนด์รถยนต์อย่างบีเอ็มดับเบิลยู

ประวัติความเป็นมามอเตอร์ไซต์ของแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู

บีเอ็มดับเบิลยู เริ่มผลิตเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์และรถจักรยานยนต์หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ปัจจุบันแบรนด์รถจักรยานยนต์เป็นที่รู้จักในชื่อ บีเอ็มดับเบิลยู โมโตแลนน์ รถจักรยานยนต์คันแรกที่ประสบความสำเร็จหลังจาก เฮลิออส และ แฟรงก์

ที่ล้มเหลวคือ อาร์ 32 ในปี ค.ศ.1923 แม้ว่าเดิมจะเริ่มผลิตในปี ค.ศ.1921 สิ่งนี้มีเครื่องยนต์คู่ “บ็อกเซอร์” ซึ่งกระบอกสูบจะไหลเข้าสู่อากาศจากแต่ละด้านของเครื่อง นอกเหนือจากรุ่นสูบเดียวของพวกเขา

รถจักรยานยนต์ทั้งหมดของพวกเขายังใช้รูปแบบที่โดดเด่นนี้จนถึงต้นทศวรรษที่ 1980 บีเอ็มดับเบิลยู หลายรุ่นยังคงผลิตในรูปแบบนี้ซึ่งกำหนดให้เป็น อาร์ซีรี่

การผลิตรถจักรยานยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู ทั้งหมดตั้งแต่ปี ค.ศ.1969 ตั้งอยู่ที่โรงงาน เบอร์ลิน – สปันเดา ของบริษัท

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ได้ผลิตรถจักรยานยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู อาร์75 โดยติดตั้งมอเตอร์ไซด์คาร์รวมกับเฟืองท้ายที่ล็อคได้ทำให้รถมีความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรด

ในปี ค.ศ.1982 เคย์ซีรี่ มาพร้อมกับเพลาขับ แต่ระบายความร้อนด้วยน้ำและมีกระบอกสูบสามหรือสี่สูบติดตั้งเป็นเส้นตรงจากด้านหน้าไปด้านหลัง หลังจากนั้นไม่นาน บีเอ็มดับเบิลยู ก็เริ่มสร้าง F และ G series ที่ขับเคลื่อนด้วยโซ่ด้วยเครื่องยนต์ Rotax คู่เดียวและคู่ขนาน

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

BMW Motorcycles

ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 บีเอ็มดับเบิลยู ได้ปรับปรุงเครื่องยนต์ airhead Boxer ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ oilhead ในปี ค.ศ.2002 เครื่องยนต์ oilhead มีหัวเทียนสองหัวต่อสูบ ในปี ค.ศ.2004 ได้เพิ่มเพลาสมดุลในตัวความจุที่เพิ่มขึ้นเป็น 1170 ซีซี

และเพิ่มสมรรถนะเป็น 75 กิโลวัตต์ (101 แรงม้า) สำหรับ R1200GS เทียบกับ 63 กิโลวัตต์ (84 แรงม้า) ของ R1150GS รุ่นก่อนหน้า เครื่องยนต์หัวน้ำมันที่ทรงพลังกว่านั้นมีอยู่ใน R1100S และ R1200S โดยให้กำลัง 73 และ 91 กิโลวัตต์ (98 และ 122 แรงม้า) ตามลำดับ

ในปี ค.ศ.2004 บีเอ็มดับเบิลยู ได้เปิดตัว K1200S Sports Bike ใหม่ซึ่งนับเป็นการจากไปของ บีเอ็มดับเบิลยู มีเครื่องยนต์ขนาด 125 กิโลวัตต์ (168 แรงม้า) ซึ่งได้มาจากการทำงานของ บริษัท ร่วมกับทีม

วิลเลียมส์ F1 และมีน้ำหนักเบากว่า K รุ่นก่อน ๆ นวัตกรรมใหม่รวมถึงระบบกันสะเทือนด้านหน้าและด้านหลังที่ปรับได้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์และส้อมด้านหน้าแบบ Hossack ที่ บีเอ็มดับเบิลยู เรียกว่า Duolever

บทความโดย ufabet1688