General Motors Europe หลังจากที่ในตอนที่แล้วได้ไปชมกันกับโรงงานและการผลิตต่างๆที่อเมริกาเหนือหรือที่แคนาดาสะเป้นส่วนใหญ่ ที่แบรนด์จีเอ็มให้ความสำคัญและให้การดูแลที่ดีมาก
แต่จะมีปัญหาเรื่องของแรงงานและพนักงานนิดหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ผลตอบรับที่อเมริกาเหนือนั้นถือได้ว่าดีมาก ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่าน สามารถกลับไปอ่านได้ที่ คลิก แบรนด์จีเอ็มอเมริกาเหนือ
ในวันนี้เราจะพไปชมกันที่ยุโรปว่าแบรนด์จีเอ็มนั้นได้ไปทำโรงงานและมีผลตอบรับยังไงบาง จะเป้นผลตอบรับที่ดีหรือไม่ดีเราเตรียมไว้ให้กันแล้ว เอาหละพร้อมแล้วไปชมกันเลย
🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎
General Motors Europe การส่งออกและโรงงานที่ยุโรป
🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎
เรื่องราวของแบรนด์เจเนรัลมอเตอร์ในยุโรป
เจเนรัลมอเตอร์ในยุโรปต้องเริ่มเรื่องมาที่ในตอนที่ก่อนจะทำการขาย กรุ๊ปพีเอสเอร์ไป ในช่วงปีพ.ศ.2560 โอเปอร์ชื่อแบรนด์ของทางเจเนรัลมอเตอร์ที่อยู่ที่ยุโรป
และทางแบรนด์ได้ทำวอกซ์ฮอลล์ที่เป็นบริษัทของแบรนดืเช่นกันที่ยุโรปเพื่อที่จะเอาไว้ใช้การทำการขาย โอเปอร์ ในช่วงปีพ.ศ.2548 นั้นทางแบรนด์เชฟโรเลตเป็นที่รู้จักกันมากยิ่งขึ้นที่ยุโรปหลังจากหายไปนานในตลาดรถยนต์ยุโรป
หลังจากที่แบรนด์ได้ทำการผลิตแดวูรีและทำการขายภายใต้ชื่อแบรนด์จีเอ็ม ก็กลับมาเป้นที่รู้จักกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นในช่วง12ปีหลังๆทางแบรนด์ได้เสียกำไรไปมากมากถึง 18 พันล้านดอลลาร์
ทำให้ทางเกาหลีได้เข้าขอซื้อต่อในทันที ทำให้แบรนด์จีเอ็มได้ทำการหยุดขายรถยนต์ของเชฟโรเลตในตลาดรถยนต์ของยุโรปตั้งแต่ตอนปรพ.ศ.2556-2558 และไปให้ความสนใจกับแบรนด์โอเปอร์และวอกซ์ฮอลล์ที่ได้สร้างเอาไว้
🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎
🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎 🏎
แต่รถยนต์ของเชฟโรเลตก็ยังมีการขายอยู่ในตลาดรถยนต์ของยุโรปและที่ใกล้เคียงต่างๆ หลังจากที่ได้มาการร่วมจากที่จีเอ็ม อุซเบกิสถานแต่ก็ยังมีปัญหาของการที่จะนำเอาคอร์เว็ท คาร์เมโร ที่เป้นแบรนด์ของเชฟโรเลตเข้ามาขายที่ยุโรปยากอยู่ดี
และทำให้คาดิลแลคก็เกิดปัญหาเช่นกัน ในช่วงปีพ.ศ.2555 พีเอสเอร์ เปอโยต์ ซีตรองกับทางแบรนด์เจเนรัลมอเตอร์ได้มากลายเป็นพันธมิตรกันมากขึ้น
มันทำให้แบรนด์จีเอ็มสามารถเข้าไปซื้อกิจการของพีเอสเอร์ เปอโยต์ ซีตรองได้มากกว่า 7 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่นานก็ได้ทำการขายกลับคืนในช่วง13 ธันวาคม ปีพ.ศ.2556 และมีมูลค่ามากกว่า 0.25 พันล้านยูโร และดูเหมือนว่าทางพีเอสเอร์ เปอโยต์ ซีตรองก็จะสนใจโอเปอร์อยู่เหมือนกัน
บทความโดย ufabet1688