Supercar Acura

Supercar Acura กลับมาแล้วกับเรื่องราวของแบรนด์รถสปอร์ตอย่างแอคิวรา ที่ในเรื่องของประวัติความเป็นมา เรื่องราวในแต่ละช่วงของประวัติแบรนด์รถนี้ จากในหลายๆตอนที่แล้วเราได้มีการบอกเล่าไปแล้ว

และก็อย่างที่เราบอกว่าซีรี่ย์แบรนด์แอคิวราใกล้จบลงแล้ว และถ้าหากท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านในตอนี้ที่แล้ว เราขอแนะนำให้ท่านกลับไปอ่านกันก่อน ท่านสามารถอ่านได้ที่ ฮิสทรีแอคิวรา

วันนี้เราจะพาทุกท่านไปต่อกันจากในตอนที่แล้ว เช่นเคยนะครับถ้าหากผิดพลาดตรงไหน ก็ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ด้วยนะครับเอาหละ ไปชมกันเลย

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Supercar Acura เรื่องราวของรถสปอร์ตแบรนด์ดังที่มีความสวยงามและน่าสนใจมาก

ประวัติความเป็นมาแอคิวรา ค.ศ.2010

มาต่อกันที่ในปี ค.ศ.2012 แอคิวรา ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ที่เรียกว่า ไอแอวเอ็กซ์ ซึ่งมาแทนที่ แอคิวรา ซีเอสเอ็กซ์ ในแคนาดาและใช้แพลตฟอร์ม ฮอนด้า ซีวิค เป็นหลัก ใช้รถไฟพลัง 3 สายพันธุ์เดียวกันจาก ซีวิค: 2.0L , 2.4L วีเทค

และ 1.5L ไฮบริด นอกจากนี้ยังเปิดตัว แอคิวรา อาร์แอวเอ็กซ์ คอนเซ็ปต์ ซึ่งมาแทนที่ซีดาน อาร์แอว ในงาน นิวยอร์ก อินเตอร์เนชันแนล ออโต้โชว์ ไอแอวเอ็กซ์ วางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2555 ในสหรัฐอเมริกาเป็นรุ่นปี 2013

นอกจากนี้ในปี 2012 แอคิวรา ได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ อีกรุ่นหนึ่งแนวคิด อาร์ดีเอ็กซ์ สำหรับรุ่นใหม่ แอคิวรา ทิ้งเทอร์โบ 4 สูบสำหรับ 3.5L V6 เมื่อ ค.ศ.2013 แอคิวรา อาร์ดีเอ็กซ์

เปิดตัวอย่างเป็นทางการมันค่อนข้างคล้ายกับแนวคิด แต่มีการเปลี่ยนแปลงในล้อไฟท้ายและเครื่องสำอางอื่นๆ แอคิวราจำนวนมากนี้ดูเหมือนน้องชายของ ไอแอวเอ็กซ์ 2013 อาร์ดีเอ็กซ์ ไม่มีระบบ SH-AWD

แต่มี “เอดับเบิลยูดี พร้อมการควบคุมอัจฉริยะ คล้ายกับระบบ เอดับเบิลยูดี ของ ซีอาร์-วี

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Supercar Acura

ในปี ค.ศ.2013 แอคิวรา ได้แสดงแนวคิดของ เอ็มดีเอ็กซ์ ในปีค.ศ.2014 หลังจากนั้นไม่นานก็เผยแพร่สู่สาธารณะ เอ็มดีเอ็กซ์แข่งขันกับ เลกซัส อาร์เอ๊กซ์ , ออดี้ คิว 7 และอื่นๆ อีกมากมาย

ในเดือนธันวาคม ค.ศ.2013 ในงาน ลอสแองเจลิสออโต้โชว์ แอคิวรา ได้เปิดตัว Sport Hybrid SH-AWD ซีดาน อาร์แอวเอ็กซ์ รุ่นเรือธง มีเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร 310 แรงม้าและมอเตอร์ไฟฟ้า 1 คู่ (หนึ่งตัวสำหรับแต่ละเพลา)

ที่ให้กำลังรวม 377 แรงม้าผ่านระบบเกียร์คลัตช์คู่ 7 สปีดใหม่ เทคโนโลยี แอคิวรา เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.2014 RLX Sport Hybrid SH-AWD นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกเกียร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ที่แทนที่คันเกียร์แบบเดิมที่ติดตั้งที่คอนโซลกลาง

ด้วยอาร์เรย์ปุ่มกดที่บรรจุอย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย – จอด, ไดรฟ์ และถอยหลังตลอดจนโหมดการขับขี่แบบสปอร์ตและปกติ อาร์แอวเอ็กซ์ สปอร์ตไฮบริด ใหม่จะวางขายในกลางปี ค.ศ.2014

ในเดือนมกราคม ค.ศ.2014 ในงาน งานแสดงรถยนต์นานาชาติแห่งอเมริกาเหนือ แอคิวรา ได้เปิดตัวสปอร์ตซีดาน ทีแอวเอ็กซ์ 2015 ใหม่ทั้งหมด รถรุ่นใหม่นี้เข้ามาแทนที่รถเก๋ง ทีเอสเอ็กซ์ และ ทีแอว

ที่จะเลิกผลิตในไม่ช้า ทีแอวเอ็กซ์ ใน 2.4 ลิตรมาพร้อมกับเกียร์ ดีซีที คลัตช์คู่แปดสปีดใหม่ทั้งหมดของ แอคิวรา ในขณะเดียวกันรุ่น V6 3.5 ลิตรระดับไฮเอนด์มาพร้อมกับระบบเกียร์เก้าสปีดใหม่

และ ซุปเปอร์-ฮาโดริง ออวิวไดรฟ์ ทีแอวเอ็กซ์ วางจำหน่ายในฤดูร้อนปี ค.ศ.2014

บทความโดย ufabet777

Acura 4

Acura 4 กลับมาแล้วกับเรื่องราวของแบรนด์รถยนต์อย่างแอคิวรา ที่ในตอนที่แล้วหรือหลากๆตอนนั้นเราได้บอกเล่าเรื่องราวกันไปพอสมควร และเรื่องราวของแบรนด์รถยนต์อย่างแอคิวราก็ใกล้จะจบกันแล้ว

เช่นเคยถ้าหากท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านในหลายๆตอนที่เรานั้นได้มีการบอกเล่าไปแล้ว ขอแนะนำให้ท่านไปอ่านกันก่อน เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจง่าย สามารถอ่านได้ที่ คลิก ประวัติแอคิวรา

วันนี้เราก็ได้เตรียมเนื้อหาไว้ให้ทุกท่านแล้ว ถ้าหากผิดพลาดตรงไหนก็ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ เอาหละไปชมกันเลย

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Acura 4

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Acura 4 ชื่อของรถสปอร์ตยี่ห้อหนึ่งที่มีเรื่องราวต่างๆ และความเป็นมาที่มีความน่าสนใจมาก

ประวัติแอคิวรา ค.ศ.2007

แอคิวรา เปิดตัว TL Type-S อีกครั้งสำหรับรุ่นปี 2007 2009 ทำเครื่องหมายรุ่น ทีแอว และ ทีเอสเอ็กซ์ ใหม่ทั้งหมดรวมทั้งการอัปเดตโมเดลกลางปีสำหรับ อาร์แอว ทั้งสามเปิดตัวในปี ค.ศ.2008

แอคิวรา วางแผนที่จะออกแบบ อาร์แอว ใหม่ภายในปี พ.ศ.2554 รวมทั้งประกาศสร้างรถครอสโอเวอร์สุดหรูรุ่นใหม่ที่เรียกว่า ZDX ซึ่งแสดงตัวอย่างตามแนวคิดของชื่อเดียวกัน

ZDX เป็น แอคิวรา รุ่นแรกที่ออกแบบในสตูดิโอออกแบบของ แอคิวรา ซึ่งตั้งอยู่ที่ ทอรแรนซ ในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ZDX ได้รับการออกแบบโดย มิเชลล์ คริสเตนเซน และใช้ แอคิวรา เอ็มดีเอ็กซ์

โดยใช้เครื่องยนต์ V6 3.7 ลิตร และระบบ SH-AWD นอกจากนี้ยังเป็น แอคิวรา ตัวแรกที่สร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ในอเมริกาเหนือ รุ่นการผลิตของ ZDX เปิดตัวในงาน Orange County Auto Show ในแคลิฟอร์เนียตอนใต้เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2552

แนวคิดเบื้องหลัง ZDX คือเป็น รถคูเป้สี่ประตู และการออกแบบที่เน้นตัวถังของรถคือ เหมือน หนังสติ๊กดึงกลับ ลักษณะการออกแบบที่โดดเด่นอีกอย่างของ ZDX คือไหล่หลังที่กว้างเหนือล้อหลัง ZDX วางจำหน่ายในเดือนธันวาคม พ.ศ.2552

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Acura 4

ในตอนแรก แอคิวรา มีแผนสำหรับ อาร์แอว รุ่นที่สามที่จะเป็นซีดาน V8 ขับเคลื่อนล้อหลังสำหรับเรือธงของมัน แต่ก็ยุติแผนดังกล่าวในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำในปี พ.ศ.2551

แอคิวรา ประกาศ TSX wagon ใหม่ในงาน นิวยอร์ก อินเตอร์เนชันแนล ออโต้โชว์ ปี ค.ศ.2010 และวางจำหน่ายในฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ.2010 ทีเอสเอ็กซ์ เวอร์ชั่นรถบรรทุกใช้พื้นฐานของ ฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่น Euro-spec

ซึ่งอยู่ในตลาดยุโรปมาระยะหนึ่งแล้วอย่างไรก็ตาม แอคิวรา ไม่ได้ประกาศแผนการใดๆ สำหรับ อาร์แอว รุ่นที่สาม

สำหรับรุ่นปี ค.ศ.2010 รุ่น เอ็มดีเอ็กซ์ ได้รับการเปลี่ยนแปลงภายนอกเล็กน้อยและเพิ่มระดับอุปกรณ์ ในทางกลไกเครื่องยนต์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

แต่ระบบเกียร์ได้รับการปรับปรุงจาก 5 สปีดก่อนหน้าเป็น 6 สปีดรวมถึงแป้นบังคับเลี้ยวที่ติดตั้งแป้นเปลี่ยนเกียร์ การส่งข้อมูลใหม่นี้แชร์กับ ZDX

บทความโดย ufabet168

ประวัติความเป็นมา Acura

ประวัติความเป็นมา Acura กลับมาอีกครั้ง หลังจากเราได้บอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของแอคิวรา ในวันนี้เราก็จะกลับมาต่อกันเพราะว่าอย่างที่เราบอกนั้น มีเรื่องราวของแบรนด์รถสปอร์ตในระดับโลกให้บอกเล่ากันอีกเยอะเลย

และถ้าท่านใดยังไม่ได้อ่านในตอนที่แล้ว เราขอแนะนำให้ท่านไปอ่านก่อนเพื่อที่จะตามเราให้ทันนะครับ ก็สามารถอ่านได้ที่ คลิก เรื่องราวแอคิวรา วันนี้เราจะมาบอกประวัติของเป็นมากันต่อจะเป็นในปีอะไรรอชมกันได้เลย

ถ้าหากผิดพลาดตรงไหนก็ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ เอาหละไปชมกกันได้เลย

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

ประวัติความเป็นมา Acura

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

ประวัติความเป็นมา Acura เรื่องราวของบริษัทที่มีชื่อเสียงโด่งดันไปไกลในระดับโลก

ประวัติความเป็นมาแอคิวรา ค.ศ.2004-2006

มาเริ่มกันที่ ทีแอว ใหม่ถูกนำมาใช้สำหรับรุ่นปี 2004 โดยมี วี6 270 แรงม้า หรือ 200 กิโลวัตต์ ซึ่งวัดตามมาตรฐาน เอสเอร์อี ในปัจจุบัน ทีแอว ใหม่เพิ่มยอดขายอย่างมากเป็น 70,943 หน่วยในอเมริกา

ในปี พ.ศ.2548ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นก็มีการเปิดตัว แอคิวรา ทีเอสเอ็กซ์ โดยพื้นฐานแล้วฮอนด้าแอคคอร์ดในตลาดยุโรปและญี่ปุ่นที่ได้รับการตีตราใหม่เต็มไปด้วยคุณสมบัติ รถรุ่นนี้กลายเป็นซีดาน 4 สูบ

เพียงรุ่นเดียวในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ แอคิวรา (ยกเว้น แอคิวรา ซีเอสเอ็กซ์ ในตลาดแคนาดาซึ่งแทนที่ อีแอว ในปี พ.ศ.2549)

ในปี พ.ศ.2548 อาร์แอว ใหม่ได้รับการเปิดตัวด้วย วี6 300 แรงม้า รูปแบบที่ดีขึ้นและ Super Handling All-Wheel Drive ซึ่งเป็นระบบที่สามารถส่งกำลังเกือบทั้งหมดของ อาร์แอว ไปยังล้อเดียว อาร์แอว

รุ่นที่สองปรากฏในรายการรถยนต์และผู้ขับขี่ที่ดีที่สุด 10 อันดับแรกในปี พ.ศ.2548 และยังได้รับ Editor s Choice ของ CNET.com เมื่อมีการเปิดตัว อาร์แอว แต่ก็ไม่ได้มองว่า แอคิวรา เทียบเท่ากับคู่แข่งในเยอรมันและคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

ประวัติความเป็นมา Acura

จากแบรนด์ญี่ปุ่น ความเสียหายจากความโอหังที่ถูกกล่าวหาของ ฮออนด้า เจแปน เกิดขึ้นแม้ว่า ฮอนด้า แคนนาดา จะลดราคา อาร์แอว ลงแล้วก็ตาม

รถรุ่นใหม่ของ แอคิวรา โดยเฉพาะ ทีแอว และ ทีเอสแอ็กซ์ ได้รับการตอบรับอย่างดีจากสื่อมวลชนและกลายเป็นรถที่ขายดีที่สุดของ แอคิวรา ในเวลานั้น ทีเอสเอ็กซ์ อยู่ในรายชื่อรถยนต์และผู้ขับขี่ที่ดีที่สุดสิบอันดับแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.2547-พ.ศ.2549

ในปี พ.ศ.2549 แอคิวรา ได้เปิดตัวรถ เอสยูวี ขนาดเล็กซึ่งใช้แชสซีแบบ ยูนิตบอดี้ อันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่เรียกว่า อาร์ดีเอ็กซ์ โดยมีรุ่นที่วางจำหน่ายสำหรับผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2549

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 240 แรงม้าเทอร์โบชาร์จและเช่นเดียวกับ อาร์แอว ระบบ SH-AWD ของ แอคิวรา เอ็มดีเอ็กซ์ ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดมีวางจำหน่ายในฤดูใบไม้ร่วงปี พ.ศ.2549 ด้วยเครื่องยนต์ วี6 300 แรงม้า และระบบขับเคลื่อนทุกล้อ Super Handling

บทความโดย ufabet1688

Acura 3

Acura 3 เอาหละเราจะกลับมาต่อกันกับแบรนด์รถยนต์อย่าง แอคิวรา กัน ซึ่งในหลายๆตอนที่แล้วนั้นเราก็ได้มีการบอกเล่าไปแล้วก็ไม่น้อย ในวันนี้เราก็จะพากันไปต่อกับเรื่องราวของแอคิวรากัน

และในคราวที่แล้วเราได้มีการบอกเล่าของเรื่องประวัติบรนด์รถสปอร์ตแอคิวรา ถ้าหากท่านใดยังไม่ได้อ่านก็สามารถอ่านได้ที่ คลิก ประวัติรถสปอร์ตแอคิวรา วันนี้เราจะพาทุกท่านไปต่อกกันกับแอคิวรา

ถ้าหากผิดพลาดตรงไหนเหมือนเดิมนะครับ ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ด้วย เอาหละไปชมกันได้เลย

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Acura 3

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Acura 3 รถสปอร์ตสัญชาติญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมากไปถึงในระดับโลกและน่าสนใจมากอีกหนึ่งแบรนด์

ประวัติแอคิวรา ค.ศ.2000-2003

มาต่อกันเลย เริ่มต้นในราวปี ค.ศ.2000 แอคิวรา ประสบกับการเกิดใหม่ซึ่งได้รับการกระตุ้น โดยการนำโมเดลที่ออกแบบใหม่หลายรุ่น รุ่นแรกคือ แอคิวรา 3.2 ทีแอว ปี 1999 ซึ่งเป็นซีดานหรู

นักวิจารณ์แนะนำว่าแม้ว่า 3.2 ทีแอว จะไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งในด้านใดด้านหนึ่งของรถยนต์ระดับหรู แต่ก็มีการผสมผสานระหว่างความสปอร์ตและความหรูหราอย่างรอบด้าน คุณลักษณะเหล่านี้เมื่อรวมกับราคาที่แข่งขันได้ของ TL

ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้บริโภค รุ่นต่อมาของ แอคิวรา ได้ดำเนินตามปรัชญาที่คล้ายคลึงกันในการนำเสนออุปกรณ์มาตรฐานมากมายและตัวเลือกน้อย

แอคิวรา ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่อีกรุ่นหนึ่งที่เปิดตัวในช่วงต้นทศวรรษ 2000 คือ เอ็ม ดี เอ็กซ์ ซึ่งเป็นรถ เอสยูวี แบบครอสโอเวอร์สามแถวยอดนิยมที่มีพื้นฐานมาจากรถมินิแวน ฮอนด้า โอดิสซีย์ เอ็ม ดี เอ็กซ์ เข้ามาแทนที่ เอสแอวเอ็กซ์

ที่ขายช้าซึ่งมากกว่า อีซูซุ ทรูเปอร์ ที่ได้รับส่วนลดเล็กน้อย เอ็ม ดี เอ็กซ์ เป็นรถครอสโอเวอร์เอสยูวีที่มีความสามารถทางออฟโรดจำกัด ซึ่งรองรับความต้องการของตลาด เอสยูวี ระดับหรู ได้รับเกียรติสูงสุดจากรถยนต์

และคนขับในการทดสอบเปรียบเทียบครั้งแรกกับรถ เอสยูวี อีกเจ็ดคัน รถยนต์รุ่นอื่นๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ แอคิวรา ในช่วงเวลานี้ ได้แก่ 3.2 TL, 3.2 CL, RSX และ NSX ในช่วงปลายยุค 2000 แอคิวรา

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Acura 3

ได้ยกเลิกการรวมหมายเลขการกระจัดของเครื่องยนต์ไว้ในการกำหนดรถโดยยังคงการกำหนดตัวอักษรสองหรือสามตัวที่ง่ายกว่าแทน เช่น 3.5 RL กลายเป็น RL 1999-2003 TL ได้รับผลกระทบจากการส่งผ่านและปัญหาอื่นๆ

ในปี ค.ศ.2001 รถคูเป้รุ่นใหม่ซึ่งมีตราสัญลักษณ์ว่า RSX ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ แอคิวรา เป็นการแทนที่ Integra ขาออก RSX เป็น Honda Integra DC5 ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่จากตลาดญี่ปุ่น

ด้วยเหตุนี้ RSX จึงเป็นรุ่นใหม่ของ Integra ขาออกในทางเทคนิค เช่นเดียวกับ Integra RSX ได้รับความนิยมในตลาดจูนเนอร์ อย่างไรก็ตามในตอนท้ายของปี 2549 RSX ได้ถูกนำออกจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ แอคิวรา

ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงในตลาดญี่ปุ่นเช่นกัน ไม่มีใครรู้ว่าทำไม RSX ถึงไม่ขายในฐานะ Integra ในญี่ปุ่นต่อไปอย่างไรก็ตามเหตุผลที่ แอคิวรา

ให้สำหรับการยกเลิก RSX นั้น แอคิวราต้องการที่จะก้าวขึ้นไปอยู่ในแบรนด์หรูจึงไม่สามารถขายรถที่ ส่วนใหญ่ขับเคลื่อนโดยวัยรุ่น

บทความโดย ufa877

Acura 2

Acura 2  กลับมาแล้วกับเรื่องราวของแบรนด์รถสปอร์ตในระดับโลกที่ในคราวที่แล้วนั้นทุกท่านก็ต่างที่จะรู้จักกันดีอยู่ ถ้าหากท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านในตอนที่แล้ว เราขอแนะนำให้ทุกท่านนั้นไปอ่านกัน

ก่อนจะได้ตามกันทันนะครับ สามารถอ่านได้ที่ คลิก ประวัติความเป็นมาของแอคิวรา เอาหละในคราวที่แล้วผมได้ติดค้างทุกท่านกันอยู่ วันนี้เราจะไปต่อกันในเรื่องของประวัติความเป็นมาต่อ ถ้าหากผิดพลาดตรงไหน เช่นเคยนะครับก็ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ด้วย

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Acura 2

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Acura 2 เรื่องราวของแบรนด์รถสปอร์ตที่มีความน่าสนใจมากอีกแบรนด์รถสปอร์ต

ประวัติความเป็นมา ช่วงปีค.ศ.1990

ในปี ค.ศ.1990 ห้าปีหลังจากการเปิดตัวของ เลเจนท์ และ Integra แอคิวรา ได้เปิดตัว เอนเอสเอ็กซ์ ซึ่งเป็นรถสปอร์ตขับเคลื่อนล้อหลังที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง เอ็นเอชเอ็กซ์ ซึ่งเป็นตัวย่อของ New Sports eXperimental

ถูกเรียกเก็บเงินว่าเป็นรถญี่ปุ่นคันแรกที่สามารถแข่งขันกับเฟอร์รารีและปอร์เช่ได้ รถคันนี้ทำหน้าที่เป็น รถอิมเมจ สำหรับทั้งแบรนด์ ฮอนด้า และ แอคิวรา ซึ่งเป็นการประกาศการนำเทคโนโลยี VTEC ของ ฮอนด้า เอ็นเอชเอ็กซ์

เป็นรถยนต์ที่ผลิตจากอะลูมิเนียมทั้งหมดคันแรกของโลกและยังถูกบางคนมองว่าเป็น ซูเปอร์คาร์ในชีวิตประจำวัน” ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความง่ายในการใช้งานคุณภาพและความน่าเชื่อถือลักษณะที่ไม่เคยมีมาก่อนในกลุ่มซูเปอร์คาร์ที่

เวลาด้วยการเปิดตัว เอ็นเอชเอ็กซ์ แอคิวรา ได้เปิดตัว A-badge ซึ่งเป็นคาลิปเปอร์คู่ที่มีสไตล์ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับการวัดที่เข้มงวดเพื่อบ่งบอกว่ารถ แอคิวรา ถูกสร้างขึ้นตามมาตรฐานที่แม่นยำและมีความต้องการ

แม้จะมีการเริ่มต้นอย่างแข็งแกร่งในการยอมรับของตลาดสำหรับแบรนด์ แอคิวรา แต่ยอดขายก็ลดลงในช่วงกลางถึงปลายทศวรรษ 1990 นักวิจารณ์บางคนระบุว่าส่วนหนึ่งมาจากการออกแบบที่สร้างแรงบันดาลใจน้อยลงซึ่งเป็นแบรนด์ ฮอนด้า

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Acura 2

ที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นเช่น ฮอนด้าวีกอร์ ในปี ค.ศ.1992 นอกจากนี้ในช่วงเวลานี้ แอคิวรา ได้เปลี่ยนมาใช้สูตรการตั้งชื่อที่เป็นตัวอักษรและตัวเลขโดยทิ้ง เลเจนท์, วีกอร์ และ Integra ชื่อตามผู้นำของ เอ็นเอชเอ็กซ์ สปอร์ตคาร์ 2539 3.5 RL

ซึ่งแทนที่ เลเจนท์ ที่ได้รับความนิยมและ วีกอร์ กลายเป็น 2.5 TL และ 3.2 TL และได้รับการยกย่องจากหลายๆ คนว่าเป็นตัวอย่างของปัญหานี้กล่าวคือเนื่องจากการกำหนดตัวอักษร

และตัวเลขไม่ระบุตัวตนมากกว่า เลเจนท์, วีกอร์ และ Integra ในอดีต ชื่อเรื่องซึ่งเติบโตมาเป็นลัทธิของพวกเขาเอง

บริษัทแม่อย่างฮอนด้าก็รู้สึกถึงผลพวงของเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ลดลงเนื่องจากฟองสบู่ราคาสินทรัพย์ของญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1990 และในช่วงปี ค.ศ.2000 ช่วงเวลานี้เป็นที่รู้จักในญี่ปุ่นว่าทศวรรษที่หายไป

ในช่วงเวลานี้ เอ็นเอชเอ็กซ์ ก็สูญเสียยอดขายเนื่องจาก แอคิวรา ทำการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากการตัดแต่งเดิมในปี ค.ศ.1990 หนึ่งปีต่อมาซีดาน Integra ถูกถอนออกจากตลาดแคนาดาแทนที่ด้วย

แอคิวรา 1.6 EL ที่เป็นเอกสิทธิ์ของตลาดซึ่งเป็น ฮอนด้า ซีวิค Domani ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซีดาน Integra ยังคงจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาจนถึงปี พ.ศ.2544

บทความโดย ufabet.com

Acura

Acura เป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นที่บอกได้เลยว่ารถสปอร์ตแบรนด์นี้นั้นมีทั้ง ความสวยงาม เรื่องของสมรรถนะ และอื่นๆอีกมากมาย ผมเชื่อว่ารถสปอร์ตแบรนด์นี้นั้นคงต้องเคยแผนตาของใครหลายๆคนกันมาแล้วบ้าง

เพราะว่ารถยนต์แบรนด์นี้ไปโผล่ในภาพยนตร์อย่าง ฟาส แอนด์ ฟิวเรียส มาแล้ว ในฉากที่มีการขับรถข้ามตึกนั้นแหละครับ และรถสปอร์ตแบรนด์นี้ยังเป็นที่โปรดบานของเหล่าดารานักแสดงด้วยนะ

วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกันกับรถยนต์แบรนด์นี้กัน ถ้าหากผิดพลาดตรงไหนก็ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ด้วยนะครับเอาหละไปชมกันเลย

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Acura

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Acura นั้นเป็นชื่อรถสปอร์ตแบรนด์หนึ่งที่มีความสวยงามและลักษณะที่โดดเด่นมากยี่ห้อหนึ่ง

ประวัติความเป็นมาของแอคิวรา (ปีค.ศ.1980)

แบรนด์นี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่คู่แข่งจากญี่ปุ่น นิสสัน และ โตโยต้า พัฒนาแบรนด์ระดับพรีเมียม อินฟินิที และ เล็กซัส ตามลำดับ รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนดมาตรการจำกัด

การส่งออกโดยสมัครใจสำหรับสหรัฐฯ ดังนั้นผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นจึงทำกำไรได้มากกว่าในการส่งออกรถยนต์ที่มีราคาแพงกว่าไปยังสหรัฐฯ

หลังจากการวิจัยมานานกว่าทศวรรษ ฮอนด้า ได้เปิดตัวแทนจำหน่ายใหม่ 60 แห่งในอเมริกาเหนือภายในปี ค.ศ.1986 เพื่อสนับสนุนแผนกรถยนต์ แอคิวรา เป็นแบรนด์หรูสัญชาติญี่ปุ่นแบรนด์แรกที่เปิดตัวภายใต้สโลแกนAcuraPrecision Crafted Automobiles

ข้อเสนอเริ่มต้นประกอบด้วยสองรุ่น ระดับผู้บริหารระดับตำนานและระดับกะทัดรัด Integra ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบห้าประตูและสามประตู เดอะเลเจนด์ เป็นผลมาจากโครงการ XX ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่ฮอนด้าเข้าร่วมกับ Austin Rover Group ของสหราชอาณาจักร

มีความเกี่ยวข้องทางกลไกกับ Rover 800 series ในขณะที่ Integra เป็นการปรับปรุง Honda Quint hatchback

ความสำเร็จของรถรุ่นเหล่านี้โดยเฉพาะรุ่น เลเจนด์ นำไปสู่การแข่งขันในแบรนด์หรูของญี่ปุ่น (เล็กซัส ของโตโยต้าที่เริ่มพัฒนาในปี ค.ศ.1983 ในชื่อโครงการ เอฟ 1 และ อินฟินิที ของ นิสสัน

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Acura

ที่เริ่มพัฒนาในปี ค.ศ.1985 โดยการแก้ไข Nissan President ซึ่งเป็นเรือธงของญี่ปุ่นเท่านั้น มาสด้าปลายปี ค.ศ.1990 วางแผนไว้แต่ไม่เคยเปิดตัวแผนกหรู อามาติ) เป้าหมายของ เดอะเลเจนด์ คือการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง โตโยต้า คราวน์

และ นิสสัน เซดริค และ Gloria แต่เนื่องจากการเปิดตัวในปี ค.ศ.1986 ทั่วโลก โตโยต้า นิสสัน และ บริษัทอื่นๆ เช่น ลินคอล์น ได้สังเกตเห็นปฏิกิริยาของตลาดที่มีต่อ เลเจนด์ และต่อมาได้รับความแข็งแกร่งและเสนอ

รถที่ตอบสนองรถขนาดผู้บริหารโตโยต้าเปิดตัว เล็กซัส อีเอส นิสสันเปิดตัว อินฟินิที เจ30 และ ฟอร์ด ใช้แพลตฟอร์ม Taurus และตั้งชื่อซีดานใหม่ว่า ลินคอล์น คอนติเนนทัล

ในปี ค.ศ.1987 ยอดขายเต็มปีแรกของ แอคิวรา พวกเขาขายได้ 109000 คัน พร้อมด้วยซีดาน เลเจนด์ ซึ่งมียอดขาย 55000 คัน และที่เหลือเป็นของ Integra ที่มีขนาดเล็กกว่า

ภายในปี ค.ศ.1990 แอคิวรา ขายได้ 138000 คันรวมถึง เลเจนด์ 54000 คัน เมื่อเทียบกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์78000 คัน และ 64000 คัน สำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู และ เล็กซัส

บทความโดย ufa877.com

Koenigsegg Agera R

Koenigsegg Agera R เป็นอีกหนึ่งรุ่นของแบรนด์รถยนต์ของโคนิกเซ็กก์ ก่อนที่เราจะไปเข้าเรื่องกันเราได้บอกเรื่องราวของ โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา กันไปแล้ว ถ้าหากท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านในตอนที่แล้วก็สามารถอ่านได้ที่ คลิก โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา

วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกันกับโคนิกเซ็กก์ อาเกียรา อาร์ กัน ถ้าหากผิดพลาดตรงไหนก็ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ เอาหละไปชมกันเลย

Koenigsegg Agera R

Koenigsegg Agera R รุ่นของแบรนด์รถยนต์แบรนด์หนึ่งที่มีความเป็นรถสปอร์ตที่น่าสนใจมาก

เรื่องของ โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา อาร์

โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา อาร์ เปิดตัวครั้งแรกในงาน เจนีวามอเตอร์โชว์ในเดือน มีนาคม พ.ศ.2554 ด้วยชุดเครื่องแบบ สปีด เรซเซอร์ และยางมิชลินรุ่นพิเศษ สามารถเร่งจาก 0–100 กม. / ชม. ใน 2.8 วินาทีและทำความเร็วสูงสุดตามทฤษฎีที่ 439 กม. / ชม.

โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา อาร์ มีค่าสัมประสิทธิ์การลาก Cd = 0.37 หรือ Cd = 0.33 ที่ความเร็วสูงเนื่องจากปีกหลังที่ปรับได้ในขณะที่ผลิต Downforce 300 กก. ที่ 250 กม. / ชม. ระบบปีกหลังแบบปรับได้นี้มีน้ำหนักเบากว่าระบบปรับตัวแบบไฮดรอลิก

ไฟฟ้าทั่วไปและมีความสามารถพิเศษในการชดเชยส่วนหัว  ลมท้ายเนื่องจากการออกแบบสปริงโหลด นอกจากนี้ไพลอนที่ยึดปีกไม่เพียง

แต่มีบทบาทในการทำงานตามหลักอากาศพลศาสตร์ของ โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา อาร์ เท่านั้น แต่ยังช่วยในการดึงอากาศร้อนออกจากช่องเครื่องยนต์ด้วย 

เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ.2011 ในระหว่างการทดสอบใน Ängelholmรถรุ่น โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา อาร์ ได้ทำลายสถิติความเร็วบนบกหกรายการสำหรับรถที่ใช้งานจริงรวมถึง 0–300 กม. / ชม.  ใน 14.53 วินาที

และ 0–300–0 กม. / ชั่วโมงในเวลาเพียง 21.19 วินาทีประสิทธิภาพการเบรกที่จำเป็นในการรักษาบันทึกนี้ส่วนหนึ่งมาจากความเสถียรของ โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา อาร์ ซึ่งแสดงโดยนักขับทดสอบ โคนิกเซ็กก์

Koenigsegg Agera R

และช่างเทคนิคระบบขับเคลื่อน Robert Serwanski ซึ่งบันทึกโดยผู้โดยสาร Rob Ferretti ผู้ก่อตั้งกลุ่ม Super Speeders เบรกจาก 300 กม. / h ถึง 0 โดยไม่ต้องจับพวงมาลัย

โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา อาร์ สามารถสร้างแรงเข้าโค้งด้านข้างได้ 1.60 จีเนื่องจากการผสมผสานระหว่างความสมดุลเชิงกลและการยึดเกาะในระดับสูงจากยาง Michelin Supersport ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ

โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา อาร์ เวอร์ชั่น 2013 เปิดตัวในงานเจนีวามอเตอร์โชว์ 2012 การอัพเกรดรวมถึงล้อคาร์บอนไฟเบอร์อากาศพลศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นและการอัพเกรดเครื่องยนต์ทำให้เครื่องยนต์ วี8 เทอร์โบคู่ของ โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา อาร์

มีกำลัง 1,140 PS ที่ 7,100 รอบต่อนาทีและ 1,200 นิวตันเมตร ของแรงบิดที่ 4,100 รอบต่อนาทีสำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพ E85 เทคโนโลยี Flex Fuel Sensor ของ โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา อาร์ ช่วยให้ อีซียู ตอบสนองต่อคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง

และปริมาณแอลกอฮอล์ที่แตกต่างกัน โดยการลดระดับพลังงานเพื่อปกป้องเครื่องยนต์ สำหรับเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทนต่ำมาตรฐานกำลังลดลงเหลือ 960 PS 

โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา อาร์ ได้รับการนำเสนออย่างโดดเด่นในแฟรนไชส์ ​​นีดฟอร์สปีด ​​โดยเด่นชัดใน นีดฟอร์สปีด โมสท์วอนเต็ด 2 ในปี ค.ศ.2012และ เกม Ghost’ Need for Speed ​​Rivals

ในปี ค.ศ.2013 โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา อาร์ ถูกนำเสนอในภาพยนตร์เรื่อง นีดฟอร์สปีด ​​ปี ค.ศ.2014 นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอในเกมมือถือ ค.ศ.2013 เรียล เรซซิ่ง 3

บทความโดย ฝากขั้นต่ำ100

Koenigsegg Agera

Koenigsegg Agera นั้นเป็นอีกหนึ่งรุ่นของแบรนด์โคนิกเซ็กก์ที่มีทั้งความสวยงาม ความเร็ว เรื่องของบอดี้ที่ถูกสร้างออกมาอย่างดี โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา นั้นรู้กันมั้ยว่าเคยไปโผล่ในภาพยนตร์อย่าง นีดฟอร์สปีด ด้วยนะ

บอกได้เลยว่าทั้งในภาพยนตร์นั้นมีโคนิกเซ็กก์ อาเกียรา ออกมาให้ทุกท่านเห็นบ่อยมาก วันนี้เราจะพาทุกท่านนั้นไปรู้จักกันกับโคนิกเซ็กก์ อาเกียรากัน ถ้าหากผิดพลาดตรงไหน เช่นเคยนะครับ ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ด้วย เอาหละไปชมกันเลย

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Koenigsegg Agera

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Koenigsegg Agera อีกหนึ่งรุ่นรถของแบรนด์อย่างโคนิกเซ็กก์ที่มีความสวยงามมากรุ่นหนึ่ง

เครื่องยนต์ของโคนิกเซ็กก์ อาเกียรา

โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา ใช้เครื่องยนต์ วี8 ขนาด 5.0 ลิตร ที่พัฒนาขึ้นภายในโดยใช้บล็อกเครื่องยนต์แบบแยกส่วนของฟอร์ด และติดตั้งเทอร์โบชาร์จเจอร์คู่ ซึ่งให้กำลังสูงสุด 706 กิโลวัตต์ หรือ 947 แรงม้า ที่ 6,900 รอบต่อนาที

และ 1100 นิวตัน ของแรงบิดที่ 4,000 รอบ ต่อนาที น้ำหนักรวมของเครื่องยนต์เพียง 197 กก. เนื่องจากท่อร่วมไอดีคาร์บอนไฟเบอร์และโครงสร้างอะลูมิเนียม ระบบเกียร์เป็นคลัตช์คู่ 7 สปีดที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์

เป็นเกียร์คลัตช์คู่รุ่นแรกที่มีเพลาอินพุตเดียว คลัตช์ที่สองจะทำให้เพลาอินพุตช้าลงระหว่างการเปลี่ยนเกียร์เพื่อลดเวลาในการซิงโครไนซ์เกียร์ถัดไป ส่งผลให้เวลาในการเปลี่ยนเกียร์เร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกียร์มีน้ำหนักเพียง 81 กก. 

ภายในและภายนอกของโคนิกเซ็กก์ อาเกียรา

โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา มีตัวถังที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ เคฟลาร์ชุบ พร้อมส่วนเสริมน้ำหนักเบา หลังคาแข็งของรถสามารถเก็บไว้ใต้ฝากระโปรงหน้าได้ แชสซียังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์

พร้อมโครงสร้างรังผึ้งอลูมิเนียมที่มาพร้อมกับถังเชื้อเพลิงในตัว เพื่อการกระจายน้ำหนักและความปลอดภัยที่เหมาะสม ปีกหลังสามารถปรับได้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมการตั้งค่าอัตโนมัติหรือการควบคุมแบบแมนนวล

เพื่อให้มีการประนีประนอมน้อยที่สุดระหว่างการลากต่ำและแรงกดลงขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่ โคนิกเซ็กก์ อาเกียรา มาพร้อมกับล้ออะลูมิเนียมปลอมแปลงพร้อมน็อตล็อคตรงกลางขนาด 19 นิ้วที่ด้านหน้า

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Koenigsegg Agera

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

และ 20 นิ้วที่ด้านหลังและห่อหุ้มด้วยยางมิชลินซูเปอร์สปอร์ตที่สามารถใช้ความเร็วได้ถึง 420 กม. / ชม. คุณสมบัติที่โดดเด่นอื่นๆ ได้แก่ ประตูเปิดใช้งานระบบซิงโครไนซ์เกลียวที่เป็นเครื่องหมายการค้าระบบควบคุมแรงฉุดแบบใหม่ไฟ LED

แถบฝากระโปรงสีน้ำเงินที่ต่อเนื่องผ่านห้องนักบินของรถและการตกแต่งภายในที่กำหนดเองพร้อมระบบไฟ Ghost light ใหม่ซึ่งใช้คาร์บอน ท่อนาโนในรูปแบบเฉพาะเพื่อส่องผ่านปุ่มอะลูมิเนียมของรถ

บทความโดย ufabet168

Koenigsegg CCX 2

Koenigsegg CCX 2 จากในคราวที่แล้วเราได้มีการบอกเล่าเรื่องราวของรุ่นรถยนต์อย่างโคนิกเซ็กก์ ซีซีเอ็กซ์ กันไปในบางส่วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของล็อเบรค เรื่องของภาพรวมของรถโคนิกเซ็กก์ ซีซีเอ็กซ์

และถ้าหากท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านในตอนที่แล้วก็สามารถอ่านได้ที่ คลิก โคนิกเซ็กก์ ซีซีเอ็กซ์ เอาหละเราจะไปต่อกันในเรื่องของโคนิกเซ็กก์ ซีซีเอ็กซ์กัน ถ้าหากผิดพลาดตรงไหนเหมือนเดิมนะครับ ก็ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ด้วย ไปชมกันเลย 

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Koenigsegg CCX 2

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Koenigsegg CCX 2 แบรนด์ของรถยนต์และรุ่นของแบรนด์ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก

บอดี้ของโคนิกเซ็กก์ ซีซีเอ็กซ์

ตัวถังผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์เสริมด้วยเคฟลาร์ และรังผึ้งอลูมิเนียมเหมือนรุ่นก่อนหน้า ในขณะที่ร่างกายยังคงรักษารูปแบบตัวถัง ด้านบนของทาร์กาและประตูการกระตุ้นซิงโครเฮลิกซ์แบบไดฮีดรัล

มันถูกนำมาทำใหม่ทั้งหมด มีการออกแบบกันชนหน้าใหม่การระบายความร้อนของเบรกที่เพิ่มขึ้น ไฟตัดหมอกไฟหน้าที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของสหรัฐอเมริกาช่องรับอากาศบริสุทธิ์ใหม่บนฝากระโปรง

ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเพิ่มอากาศแบบกระทุ้งช่องอากาศเข้าด้านหลังล้อหน้าเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศและหน้าต่างกระจกเหนือ เครื่องยนต์

โคนิกเซ็กก์ ซีซีเอ็กซ์ มีพื้นที่ด้านหน้า 2894 ตารางนิ้ว และค่าสัมประสิทธิ์การลาก Cd = 0.32 โดยมี CdA 0.56 ตร.ม. นอกจากนี้ยังมีด้านล่างแบนพร้อมช่องระบายอากาศที่ด้านหลัง และสปอยเลอร์หลังเสริมเพื่อปรับปรุง downforce ที่ 200 กม. / ชม.

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Koenigsegg CCX 2

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

มี Downforce 60 กก. ที่เพลาหน้าและ 65 กก. ที่ด้านหลังรถมีความยาวขึ้น 88 มม. เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับการกระแทกด้านหลังของสหรัฐอเมริกา

และเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างรอบๆ ท่อไอเสียด้านหลัง ด้านในมีเฮดรูมพิเศษ 51 มม. และเบาะนั่งคาร์บอนไฟเบอร์ Sparco ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ

เรื่องมอเตอร์สปอร์ต

เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน FIA GT Championship โคนิกเซ็กก์ ได้สร้างรถแข่ง ซีซีจีที ขึ้นอยู่กับรุ่น ซีซี รุ่นที่ผลิตขึ้น เปิดตัวครั้งแรกในงานเจนีวามอเตอร์โชว์ 2007 และสร้างขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบ เอซีโอ และ เอฟไอที สำหรับคลาส จีที1 

เครื่องยนต์ของ ซีซีจีที ขึ้นอยู่กับหน่วยที่ใช้ใน โคนิกเซ็กก์ ซีซีเอ็กซ์ โดยถอดซูเปอร์ชาร์จเจอร์ออกและความจุจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.0 ลิตรเพื่อชดเชยการสูญเสียพลังงาน ซีซีจีที มี downforce มากกว่า 600 กก.

และมากกว่า 600 แรงม้าโดยปกติจะมีแรงดูดแรงม้า จำกัด การแข่งรถเนื่องจากโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาอยู่แล้วของรุ่นที่ใช้ในการทำถนนเป็นพื้นฐานน้ำหนักจึงลดลงอย่างง่ายดายภายใต้ 1,100 กก.

ขั้นต่ำ ซึ่งหมายความว่าสามารถวางบัลลาสต์ได้อย่างเหมาะสมที่สุดเพื่อให้เป็นไปตามน้ำหนักที่บังคับ

เมื่อรถใกล้จะเสร็จสมบูรณ์กฎข้อบังคับของ FIA GT1 ก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันตามกฎข้อบังคับที่มีการเปลี่ยนแปลงจะต้องมีการผลิตรถยนต์บนท้องถนนอย่างน้อย 350 คันต่อปี

สำหรับรุ่นที่จะแข่งขันซึ่งเป็นสิ่งที่ โคนิกเซ็กก์ ไม่สามารถบรรลุได้โดยห้าม CCGT จากการแข่งรถ

บทความโดย แทงบอลออนไลน์

Koenigsegg CCX

Koenigsegg CCX เป็นอีกหนึ่งรถยนต์อีกรุ่นของแบรนด์รถสปอร์ตชั้นนำในระดับโลกอย่างโคนิกเซ็กก์ แบรนด์รถยนต์อย่างโคนิกเซ็กก์นั้นคงไม่ต้องพูดถึงในเรื่องของความเร็ว เรื่องของสมรรถนะ และเรื่องของบอดี้ตัวรถ

โคนิกเซ็กก์หลายๆท่านนั้นคงที่จะเคยเห็นกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นในภาพยนตร์หรือตามท้องถนน เพราะว่ามันเป็นรถสปอร์ตที่มีความโดดเด่นมาก

วันนี้เราจะพาทุกท่านนั้นไปรู้จักกันกับโคนิกเซ็กก์ ซีซีเอ็กซ์กัน ถ้าหากผิดพลาดตรงไหนนั้นก็ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ด้วย เอาหละไปชมกันเลย

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Koenigsegg CCX

Koenigsegg CCX นั้นเป็นชื่อของรถยนต์รุ่นหนึ่งของแบรนด์โคนิกเซ็กก์ที่น่าสนใจมาก

ภาพรวมของโคนิกเซ็กก์ ซีซีเอ็กซ์

โคนิกเซ็กก์ ซีซีเอ็กซ์ เปิดตัวในงานเจนีวามอเตอร์โชว์ ปี ค.ศ.2006 ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนตัวถังแบบสปอร์ต เพื่อให้สอดคล้องกับกฎข้อบังคับของรถยนต์ของสหรัฐอเมริกา และเครื่องยนต์ วี8 ซูเปอร์ชาร์จแบบคู่ 4.7 ลิตรที่พัฒนาขึ้นภายในบริษัท

ซึ่งสามารถสร้างกำลังสูงสุด 817 PS หรือ 601 กิโลวัตต์ 806 แรงม้า 7000 รอบต่อนาที และแรงบิด 920 นิวตันเมตร หรือ 679 ปอนด์ฟุต ที่ 5500 รอบต่อนาทีขณะวิ่งด้วยน้ำมันเบนซินออกเทน 91

ระบบเครื่องยนต์โคนิกเซ็กก์ ซีซีเอ็กซ์

เครื่องยนต์ใหม่ของโคนิกเซ็กก์ ซีซีเอ็กซ์ เป็นโครงสร้างอะลูมิเนียมทั้งหมดที่ทำจากอะลูมิเนียม 356 ตัว พร้อมการอบชุบ ที7 เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของบล็อกและความเย็นของกระบอกสูบระหว่างการหล่อ

สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับ โคนิกเซ็กก์ โดย เกรนเจอร์ แอนด์ วอร์รัลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการหล่อที่มีประสบการณ์ เอฟ 1 ในชิ้นส่วนของระบบขับเคลื่อนที่เครื่องยนต์นั้นได้ถูกสร้างประกอบและทดสอบที่โรงงานผลิต Ängelholm เครื่องยนต์

ได้รับการหล่อลื่นด้วยระบบบ่อแห้ง พร้อมปั๊มน้ำมันแยกต่างหากและลูกสูบจะถูกระบายความร้อนด้วยตัวทำความเย็นภายในที่ฉีดน้ำมันลงบนตัวถัง เพื่อให้แรงดันกระบอกสูบสูงด้วยเชื้อเพลิงออกเทน 91

ทำให้มีความสามารถ 14 เอ็มพีจี – ยูเอส ในวงจรรวมและ 18 เอ็มพีจี – ยูเอส ในการเดินทางบนทางหลวง ระบบส่งกำลังที่มีให้เลือก ได้แก่ CIMA 6-speed manual และ 6-speed sequential manual กำลังส่งไปยังล้อผ่านเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปที่ไวต่อแรงบิด

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

Koenigsegg CCX

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

เรื่องของล้อและเบรค

ล้อคาร์บอนไฟเบอร์รุ่นแรกในอุตสาหกรรมเป็นอุปกรณ์เสริมน้ำหนักเบากว่าล้อหน้าปัดโทรศัพท์อัลลอยด์ปลอมแปลงมาตรฐาน 3 กิโลกรัม ทั้งคู่ใช้น็อตล็อกตรงกลาง เส้นผ่านศูนย์กลาง 19 นิ้ว ที่ด้านหน้า

และ 20 นิ้วที่ด้านหลังพร้อมกับ 255/35 Y19 ด้านหน้า, 335/30 Y20 ด้านหลังยาง Michelin Pilot Sport 2, คาลิปเปอร์คาร์บอน 8 ลูกสูบเบรกขนาด 380 มม. ที่ด้านหน้า

และคาลิปเปอร์ 6 ลูกสูบ 362 มม. ที่ด้านหลังเป็นอุปกรณ์เสริมช่วยประหยัดน้ำหนัก ขณะไม่สปริงได้อีก 2 กก. 

บทความโดย ufa877

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?